เมลเบิร์น 3 พ.ค. – รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ในวันนี้ และรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ก็พยายามแก้ปัญหาระบาดแบบกลุ่มก้อน หรือ คลัสเตอร์ ที่บ้านพักดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง ในขณะที่ส่วนอื่นๆ ของประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 13 คนในรัฐวิกตอเรียในวันนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ มี 6 รายที่เกี่ยวข้องกับการระบาดแบบคลัสเตอร์ที่โรงงานแปรรูปเนื้อในนครเบลเบิร์น ส่วนที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อไวรัส 4 ราย และมี 2 ราย ที่เกี่ยวช้องกับบ้านพักดูแลคนชรานิวมาร์ช ที่นครซิดนีย์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 60 รายบและเสียชีวิต 14 ราย ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของไวรัส ทำให้หลายรัฐเริ่มอนุญาตให้ประชาชนได้มีกิจกรรมกลางแจ้งและการพบปะกันเป็นกลุ่มได้เร็วกว่าที่วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติหลายแห่งเปิดให้บริการอีกครั้งในรัฐควีนส์แลนด์ และอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้พื้นที่พักผ่อนรับประทานอาหารกลางแจ้ง หรือ ปิกนิก กันได้แบบวงเล็ก ๆ ส่วนดินแดน นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี เริ่มผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดโดยมีกำหนดทีจะยกเลิกมาตรการทั้งหมดในเดือนมิถุนายน รัฐนิวเซาธ์เวลส์ อนุญาตให้ประชาชนไปเยือนบ้านเพื่อน หรือ เยี่ยมเพื่อนบ้าน แต่ไม่ให้รวมกลุ่มกันมากกว่า 2 คน ขึ้นไป แต่การผ่อนปรนนั้น จะดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไปและแตกต่างกันในแต่ละรัฐ หรือ ดินแดนในออสเตรเลีย อย่างเช่นในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ยังคงมาตรการเข้มงวดต่อไปอย่างน้อยจนกว่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะหมดอายุลงในวันที่ 11 พฤษภาคม และการผ่อนปรนจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่.-สำนักข่าวไทย
