มะนิลา 14 เม.ย.- ฟิลิปปินส์เร่งเดินหน้าตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อหาตัวผู้ติดเชื้อที่คาดว่ายังหาไม่พบมากถึง 15,000 คน แม้ว่าปิดเมืองและใช้มาตรการเข้มงวดเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียก็ตาม
ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 4,932 คน มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียชีวิต 315 คน ทางการเชื่อว่าการที่ได้เร่งปิดพรมแดนและให้ประชากรครึ่งประเทศอยู่บ้าน ไม่กี่วันหลังจากพบการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ช่วยป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อที่อาจมากถึง 1.9-8.3 ล้านคน ขณะนี้ตั้งเป้าเร่งตรวจหาเชื้อเป็นหลายระยะ เริ่มจากวันนี้ ตั้งเป้าตรวจให้ได้วันละ 8,000 คน มุ่งกลุ่มเสี่ยงที่สุด เป็นคนทำงานหรือเข้าโรงพยาบาลในกรุงมะนิลาที่กำลังรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดหรือกลุ่มคนที่แสดงอาการ เพื่อแยกผู้ป่วยไปยังศูนย์รักษาแห่งใหม่ตามสนามกีฬาและศูนย์ประชุมจนกว่าจะหายป่วย
พล.อ.การ์ลิโต กัลเวซ จูเนียร์ เสนาธิการกองทัพเกษียณราชการที่รับผิดชอบคณะทำงานเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาเผยว่า ผลการประเมินตามแบบจำลองคาดว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 75 หรือราว 15,000 คนที่ยังหาไม่พบ จึงต้องเร่งเดินหน้าการตรวจหาเชื้อในเขตเมืองหลวงมะนิลาก่อน เพราะเป็นศูนย์กลางการระบาด หากตรวจได้ทั่วถึงก็จะเอาชนะโควิด-19 ได้ ด้านโฆษกคณะทำงานเฉพาะกิจเผยว่า ศูนย์แยกรักษาจะมีอุปกรณ์พร้อมและคล่องตัว ช่วยแบ่งเบาภาระระบบสาธารณสุข และทำให้สามารถใช้ชุดตรวจได้อย่างมีประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งจะทำให้เส้นกราฟการติดเชื้อลดลงเป็นแนวราบได้
ฟิลิปปินส์ถูกตำหนิว่าตรวจล่าช้า เพิ่งมาเร่งได้ตั้งแต่ต้นเดือนนี้เพราะมีชุดตรวจมากขึ้นและห้องทดลองปฏิบัติการมีศักยภาพมากขึ้น ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต อนุมัติเมื่อวันจันทร์ให้จัดหาชุดตรวจอีก 900,000 ชุด จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน 100,000 ชุด จำนวนผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อจนถึงวันที่ 12 เมษายนอยู่ที่ 33,814 คน เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากวันที่ 29 มีนาคม แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเวียดนามที่ตรวจได้ 110,000 คน พบผู้ป่วย 265 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย.-สำนักข่าวไทย