บราซิเลีย 1 เม.ย.- ประธานาธิบดีจาอีร์ โบวโซนารู สายขวาจัดของบราซิลยอมรับแล้วว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของคนยุคนี้ หลังจากเคยเปรียบว่าเป็นเหมือนไข้หวัดเล็ก ๆ เท่านั้น
ประธานาธิบดีโบวโซนารูวัย 65 ปี แถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อค่ำวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นยอมรับว่า มาตรการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญ จากเดิมที่เคยกล่าวว่าผู้คนตื่นกลัวเกินกว่าเหตุ เขาไม่ยอมรับมาตรการปิดสถานศึกษาและภาคธุรกิจ ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ยังไปเดินตลาด จับมือทักทายและถ่ายรูปกับผู้สนับสนุน ส่งเสริมให้คนเผชิญหน้ากับไวรัสอย่างผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็ก ต้องเผชิญหน้าตามความเป็นจริง เพราะไม่ว่าอย่างไรทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี จำเป็นต้องดูแลผู้สูงวัยและกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องเศรษฐกิจด้วย อย่างไรก็ดี ในการแถลงเมื่อวานนี้ เขายังคงย้ำเรื่องปกป้องเศรษฐกิจและอย่าให้การต่อสู้ไวรัสก่อให้เกิดผลร้ายแรงกว่ายิ่งเชื้อไวรัส
บราซิลมีผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 5,717 คน เสียชีวิต 201 คน หนักที่สุดในลาตินอเมริกา ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมลบคลิปเดินตลาดของประธานาธิบดีโบลโซนาโรเพราะเนื้อหาขัดแย้งกับนโยบายห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คน ชาวบราซิลที่ไม่เห็นด้วยกับผู้นำพากันเคาะหม้อและกระทะประท้วงทุกคืน ขณะที่แกนนำฝ่ายซ้ายเรียกร้องให้เขาลาออกเพราะก่ออาชญากรรมด้านสาธารณสุข ทางการท้องถิ่นก็ไม่ปฏิบัติตามจุดยืนของเขา
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ทัศนคติของผู้นำบราซิลสุ่มเสี่ยงมาก เพราะแบ่งขั้วระหว่างการปกป้องชีวิตกับการปกป้องเศรษฐกิจอย่างผิด ๆ ผลการศึกษาจำนวนมากชี้ว่า การรักษาระยะห่างทางสังคมไม่เพียงช่วยป้องกันระบบสาธารณสุขไม่ให้ล่มสลาย แต่ยังช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดด้วย ส่วนการที่ผู้นำบราซิลสนับสนุนให้ต่อสู้กับโรคนี้ด้วยมาตรการแยกตัวเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแล้วให้คนที่เหลือใช้ชีวิตตามปกติโดยที่ยังไม่รู้จักไวรัสดีพอ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง.- สำนักข่าวไทย