สหรัฐ 27 มี.ค.- ในที่สุด สหรัฐก็กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่ของโลก หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งแซงหน้าจีนและอิตาลี ขึ้นไปอยู่ที่กว่า 85,000 คน
สหรัฐกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในโลก แซงหน้าจีนและอิตาลีไปแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมตอนนี้กว่า 85,000 คน หลังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17,166 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 268 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,295 คน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากชาวอเมริกันได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสพันธุ์ใหม่กันเป็นจำนวนมาก จากการจัดให้มีการตรวจทดสอบเชื้อในทุกรัฐ และมีการตรวจหาเชื้อไปแล้วกว่า 552,000 คนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ประธานาธิบทรัมป์ ยังคงตอกย้ำว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้นมีต้นตอมาจากจีนอย่างแน่นอน ไม่ใช่ทหารอเมริกันเป็นผู้แพร่เชื้อเข้าไปในจีน อย่างที่จีนกล่าวหา และเขาเชื่อว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวที่ว่านี้ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างและกลางของจีน ที่พยายามสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ดี ทรัมป์ระบุว่าเขามีแผนจะหารือกับประธานาธิบดีสีเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐกำลังจัดเตรียมแนวทางและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 และจะนำเสนอต่อประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพนซ์บอกด้วยว่า สหรัฐจะเริ่มเปิดประเทศอย่างระมัดระวังและจะถอยห่างจากมาตรการเว้นห่างทางสังคม หรือ โซเชียล ดิสแทนซิ่ง ที่มีการนำมาใช้ เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความเห็นของเพนซ์ สอดคล้องกับความเห็นของทรัมป์ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า สหรัฐจะเปิดประเทศและชาวอเมริกันจะกลับไปทำงานกันอีกครั้งในวันที่ 12 เมษายนนี้ ส่วนเรื่องรายละเอียดของการเปิดประเทศอีกครั้ง ทรัมป์บอกว่าจะเปิดเผยให้ทราบในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย