ชิคาโก 3 ม.ค.- เกษตรกรในสหรัฐยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเพาะปลูกพืชชนิดใดในฤดูกาลหน้า เพราะมีแต่ทางเลือกที่เสี่ยงอันตราย แม้ว่าสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งแล้ว และเตรียมลงนามในวันที่ 15 มกราคมนี้
เกษตรกรรัฐนอร์ทดาโกตาได้แต่มองดูไร่ข้าวโพดที่เสียหายเพราะหิมะตกหนัก หลังจากลงทุนลงแรงปลูกแทนถั่วเหลืองที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ากับจีน ขณะที่เกษตรกรรัฐเทกซัส แคนซัสและโคโลราโดกำลังชั่งใจว่า ควรลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดแล้วเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวฟ่างหรือไม่ แม้ว่าจีนระงับการนำเข้าข้าวฟ่างไปแล้ว เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าเกือบครึ่ง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องลงทุนมากเกินไปในยามที่อนาคตการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนยังไม่แน่นอน เกษตรกรจำนวนมากพยายามเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ไม่พึ่งพาตลาดจีนมากนัก พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองปีก่อนลดลงจากปีก่อนหน้านั้นร้อยละ 14.3 เหลือ 191.25 ล้านไร่ พื้นที่ปลูกข้าวฟ่างที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์และเหล้าขาวแบบจีนลดลงร้อยละ 7.5 เหลือ 13.25 ล้านไร่ ตัวเลขเหล่านี้อาจลดลงมากกว่านี้หากรัฐบาลกลางไม่ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือ 24,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 738,670 ล้านบาท) หรือราวหนึ่งในสามของรายได้การเกษตรสุทธิปี 2562
นักวิเคราะห์ตลาดโภคภัณฑ์และนักเศรษฐศาสตร์ด้านการเกษตรชี้ว่า ข้อตกลงเฟสหนึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจการเกษตรของสหรัฐได้ทันที เพราะข้อพิพาทที่ดำเนินมานาน 18 เดือนทำให้จีนหันไปหาตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรแห่งใหม่ แล้ว โดยเฉพาะคู่แข่งสหรัฐอย่างบราซิลและอาร์เจนตินา ขณะเดียวกันจีนมีความต้องการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวฟ่างลดลงเพราะสุกรเลี้ยงล้มตายไปเกือบครึ่งจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาด ผลสำรวจของรอยเตอร์และสื่อด้านการเกษตรชี้ว่า เกษตรกรอเมริกันส่วนใหญ่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย เหมือนที่เคยลงคะแนนให้เขาในปี 2559 เพราะฝากความหวังว่าสงครามการค้าของเขาจะบีบให้จีนซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐมากขึ้นแม้ว่าส่งผลเสียระยะสั้นก็ตาม.- สำนักข่าวไทย