ลัคเนา 27 ธ.ค.- รัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดียที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทางสมาร์ทโฟนในวันนี้ และส่งตำรวจปราบจลาจลหลายพันนายไปเตรียมพร้อมรับมือการประท้วงกฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไข
ทางการรัฐอุตตรประเทศที่มีประชากรประมาณ 200 ล้านคน และเป็นมุสลิมราว 1 ใน 5 แจ้งว่า ได้ตัดอินเทอร์เน็ตสมาร์ทโฟนและการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน 21 เขต จากทั้งหมด 75 เขต รวมทั้งเมืองลัคเนา เมืองเอกของรัฐในวันนี้ ทั้งที่เพิ่งกลับมาให้บริการตามปกติเมื่อวันอังคาร หลังจากตัดไปนานหนึ่งสัปดาห์เพราะชาวมุสลิมกับตำรวจปะทะกันอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีคนเสียชีวิต 19 คน ส่วนใหญ่ถูกยิง และมีเด็กวัย 8 ขวบถูกเหยียบตายระหว่างการประท้วงในเมืองพาราณสี เขตเลือกตั้งของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ขณะที่การประท้วงในหลายรัฐทั่วประเทศตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 คน
ทางการรัฐอุตตรประเทศถูกตำหนิว่าใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง และคาดว่าจะมีการประท้วงครั้งใหม่ในวันนี้หลังเสร็จสิ้นการละหมาด ตำรวจพร้อมอาวุธจึงได้ออกลาดตระเวนตามชุมชนมุสลิมในหลายเขต สื่อรายงานว่าตำรวจในรัฐนี้จับกุมผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 1,000 คน กักตัวล่วงหน้ากว่า 5,000 คน และสั่งให้ 200 คนจ่ายค่าปรับโทษฐานสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินสาธารณะระหว่างการประท้วง หากไม่จ่ายก็จะถูกริบทรัพย์สิน ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์กว่า 100 คน ถูกระบุว่าโพสต์ข้อความน่ารังเกียจหรือชี้นำในทางที่ผิด และมีข้อความในสื่อสังคมออนไลน์หลายแฟลตฟอร์มถูกรายงานนับไม่ถ้วน สำนักข่าวพีทีไอรายงานว่า ตำรวจกำลังจับตาการเคลื่อนไหวของชาวต่างชาติอย่างใกล้ชิด หลังจากนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์คนหนึ่งถูกสั่งให้ออกนอกประเทศเพราะเข้าร่วมการประท้วงในรัฐเกรละ ทางใต้ของประเทศ
สหรัฐและสหประชาชาติแสดงความกังวลว่า กฎหมายสัญชาติฉบับแก้ไขที่ให้ผู้อพยพชนกลุ่มน้อยจากสามประเทศเพื่อนบ้านยกเว้นมุสลิมได้สัญชาติอินเดียและการขึ้นทะเบียนพลเมืองจะเป็นการกดขี่ชาวมุสลิมที่มีอยู่ร้อยละ 14 ของชาวอินเดียทั้งหมด 1,300 ล้านคน.- สำนักข่าวไทย