เวียดนามยึดงาช้าและเกล็ดตัวนิ่มจากแอฟริกากว่า 2 ตัน

ฮานอย 24 ธ.ค.- สื่อทางการเวียดนามรายงานวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ยึดงาช้างและเกล็ดตัวนิ่มลอบนำเข้าจากแอฟริกาน้ำหนักรวมกว่า 2 ตัน


หนังสือพิมพ์ของกรมศุลกากรเวียดนามรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเมืองไฮฟอง เมืองท่าทางตอนเหนือของประเทศยึดงาช้างหนัก 330 กิโลกรัม และเกล็ดตัวนิ่มหนัก 1.7 ตัน ซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ไม้ 3 ตู้ได้ในเดือนนี้ ทั้งหมดถูกส่งมาจากไนจีเรีย การค้างาช้างและเกล็ดตัวนิ่มเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเวียดนาม แต่ยังคงมีผู้ลอบค้าอย่างกว้างขวาง ชาวเวียดนามบางคนเชื่อว่า เกล็ดตัวนิ่มมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย แต่นักวิจัยเผยผลการวิจัยว่า เกล็ดตัวนิ่มประกอบด้วยเคราติน เป็นสารประเภทเดียวกับเล็บนิ้วมือนิ้วเท้าของคน จึงไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส