ซิดนีย์ 22 พ.ย.- สตรีมุสลิมถูกชายชาวซิดนีย์กระหน่ำต่อยและเหยียบทั้งที่ตั้งครรภ์แก่และไม่ได้ยั่วโมโหแต่อย่างใด สมาคมมุสลิมในออสเตรเลียระบุว่า เป็นทำร้ายร่างกายที่เกิดจากความหวาดกลัวศาสนาอิสลาม
ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นชายวัย 43 ปี เดินไปที่โต๊ะที่สตรีสวมผ้าคลุมศีรษะ 3 คนนั่งคุยกันอยู่ในร้านกาแฟ ทางตะวันตกของนครซิดนีย์เมื่อวันพุธ จู่ ๆ ชายคนนั้นก็พุ่งเข้าไปรัวหมัดใส่สตรีวัย 31 ปีจนเธอล้มลงไปที่พื้น แล้วเหยียดซ้ำ คนแถวนั้นช่วยกันดึงตัวเขาออกมา ตำรวจระบุว่า สตรีผู้เคราะห์ร้ายกำลังตั้งครรภ์อายุ 38 สัปดาห์ หากผู้อยู่ในเหตุการณ์ไม่กล้าเข้าไปช่วย เธออาจบาดเจ็บร้ายแรงกว่านี้ อย่างไรก็ดี แพทย์ได้ตรวจร่างกายและอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนชายผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและข้อหาทะเลาะวิวาท ตำรวจไม่ให้ประกันตัว และไม่ขอให้ความเห็นเรื่องมูลเหตุจูงใจ แต่อาจตั้งข้อหาเขาเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
สหพันธ์สภาอิสลามออสเตรเลียแถลงว่า มีคนได้ยินชายคนนี้ตะโกนถ้อยคำเกลียดชังศาสนาอิสลามใส่สตรีคนนั้นและเพื่อน เห็นได้ชัดว่าเป็นการทำร้ายที่เกิดจากความหวาดกลัวศาสนาอิสลามและการเหยียดศาสนา หวังว่าทางการจะถือว่าเรื่องนี้เป็นคดีในลักษณะนี้ เอเอฟพีอ้างผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยชาร์ลส์สเติร์ตเมื่อไม่นานมานี้ว่า ความหวาดกลัวศาสนาอิสลามยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสตรีที่คลุมศีรษะเสี่ยงตกเป็นเป้าหมายเป็นพิเศษ เพราะสตรี 113 คนที่ถูกข่มขู่คุกคามทางร่างกาย ร้อยละ 96 สวมผ้าคลุมศีรษะ.- สำนักข่าวไทย