ซิดนีย์ 22 ส.ค.- ออสเตรเลียเผยว่า เศรษฐีที่พำนักอยู่ในฮ่องกงยื่นใบสมัครโครงการวีซ่าเฉพาะเศรษฐีเพื่อขอย้ายมาพำนักในออสเตรเลียมากผิดหูผิดตาในช่วงหลายเดือนมานี้
สำนักงานคนเข้าเมืองรัฐนิวเซาท์เวลส์มีหนังสือถึงบรรดาบริษัทนายหน้าเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ความสนใจที่เพิ่มขึ้นมากตรงกับช่วงที่ฮ่องกงกำลังมีเหตุไม่สงบอยู่ในขณะนี้ เป็นการยื่นสมัครโครงการวีซ่านักลงทุนสำคัญ หรือเอสไอวี (SIV) ที่ให้สิทธิพำนักในออสเตรเลียโดยตรงแก่ผู้ที่ลงทุนในออสเตรเลีย 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 104 ล้านบาท) สำนักงานจะให้ความช่วยเหลือบริษัทนายหน้าตามความเหมาะสมเรื่องการหารือทางเลือกต่าง ๆ กับลูกค้าที่ยื่นใบสมัคร อย่างไรก็ดี สำนักงานไม่มีตัวเลขรายเดือนให้เปรียบเทียบ เพราะจัดทำแต่ตัวเลขรายปีเท่านั้น
เดือนพฤศจิกายน 2555 ถึงเดือนมิถุนายนปีก่อน ออสเตรเลียให้วีซ่าเอสไอวีแก่ชาวต่างชาติ 2,022 ราย ร้อยละ 87 เป็นชาวจีน ส่วนชาวฮ่องกงมีเพียงร้อยละ 3.2 เท่านั้น เบเกอร์แอนด์แมคเคนซี่ บริษัทกฎหมายในซิดนีย์อ้างลูกค้าว่า มีผู้ยื่นสมัครโครงการนี้เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกง บริษัทเกรงว่า โครงการนี้จะทำให้ออสเตรเลียได้คนเข้ามามากว่าได้เงิน เพราะออสเตรเลียไม่ใช่ทางเลือกแรกที่จะนำเงินมาฝากเนื่องจากเก็บภาษีอัตราสูง แม้มีระเบียบใหม่กำหนดว่าเงินลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 40 จะต้องลงทุนในกองทุนขนาดเล็กและกองทุนร่วมลงทุน หรือวีซี (VC) ห้ามการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรงก็ตาม
ด้านจูไว่ดอทคอม เว็บท่าอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศใหญ่ที่สุดของจีนที่ระบุว่า ชาวฮ่องกงสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในซิดนีย์มากขึ้นตั้งแต่การประท้วงเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ดี การซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เป็นก้าวแรกของการเข้ามาอยู่ในออสเตรเลีย เพราะสิ่งสำคัญกว่านั้นคือการได้สิทธิพำนักอยู่อย่างถูกกฎหมาย ช่วง 2-5 ปีข้างหน้าอาจเห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียเพราะชาวฮ่องกงเหล่านี้จะหาลู่ทางมาลงหลักปักฐานแล้วจึงหาซื้ออสังหาริมทรัพย์.-สำนักข่าวไทย