ฟิลิปปินส์ 11 ส.ค.-ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ไม่ยอมขอโทษ กรณีพูดจาดูหมิ่นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำฟิลิปปินส์ โดยยืนยันว่า ทูตสหรัฐผู้นี้ ทำตัวไม่เหมาะสมที่ก้าวก่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ดูเตอร์เต ที่ขึ้นชื่อว่า พูดจาขวานผ่าซากได้ใช้ คำว่า “บักลา” ซึ่งเป็นคำดูหมิ่นคนรักร่วมเพศ ในภาษาตากาล็อก เพื่อแสดงความไม่พอใจ ในตัวนายฟิลิป โกลด์เบิร์ก เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำฟิลิปปินส์ โดยผู้นำฟิลิปปินส์ ยืนยันอีกครั้งว่า คำพูดที่เขาด่าทูตสหรัฐเป็นเรื่องจริง และว่าคำพูดแค่นี้ไม่น่ากระทบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับฟิลิปปินส์ และเขายังพร้อมที่จะผูกมิตรกับสหรัฐ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพในการป้องกันประเทศ และขอย้ำอีกครั้งว่าฟิลิปปินส์ยังคงเป็นมิตรที่เข้มแข็งของสหรัฐ
ดูเตอร์เตกล่าวว่า การพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐ เป็นเรื่องสมเหตุสมผล เนื่องจากฟิลิปปินส์กับสหรัฐมีความร่วมมือด้านกลาโหมกันมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้เรื่องบาดหมางระหว่างดูเตอเต กับทูตสหรัฐเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เขาหาเสียงเลือกตั้ง หลังผู้นำฟิลิปปินส์ออกมากล่าวว่า เขาอยากลองข่มขืนมิชชันนารีสาวสวยชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง ซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ และฆ่าทิ้งระหว่างที่ นักโทษเรือนจำเมืองดาเวา ก่อเหตุจลาจลเมื่อปี 1989 ส่งผลให้โกลด์เบิร์ก ออกมาวิจารณ์คำพูดของดูเตอร์เตอย่างรุนแรง และยังแนะนำให้ชาวฟิลิปปินส์เลือกผู้นำคนใหม่ ที่จะเข้ามาสานต่อนโยบายของรัฐบาล ให้มีความต่อเนื่องซึ่งตีความได้ง่ายๆ ว่าทูตสหรัฐผู้นี้ เชียร์ผู้สมัคร ที่ประธานาธิบดี เบณิญโญอาคีโน สนับสนุนมากกว่าดูเตอเต ส่งผลให้ดูเตอร์เต สวนกลับทันทีว่าทูตสหรัฐไม่สมควรมาก้าวก่ายการเมืองภายในของฟิลิปปินส์
ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกทูตฟิลิปปินส์ประจำวอชิงตันเข้าพบ เพื่อแสดงความไม่พอใจ ที่ผู้นำฟิลิปปินส์ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมต่อทูตสหรัฐ ซึ่งเป็น 1 ในบรรดาทูตอาวุโสสูงสุดของสหรัฐ .-สำนักข่าวไทย