เม็กซิโกซิตี 3 ก.ค.- เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเผยว่า เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเนรเทศผู้เข้าเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากเดือนพฤษภาคม หลังจากเม็กซิโกทำข้อตกลงกับสหรัฐว่าจะดำเนินมาตรการลดจำนวนผู้เข้าเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แลกกับการไม่ถูกสหรัฐเก็บภาษีสินค้า
สำนักงานคนเข้าเมืองแห่งชาติของเม็กซิโกเผยตัวเลขเบื้องต้นว่า จำนวนผู้เข้าเมืองที่ถูกเนรเทศเมื่อเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 21,912 คน เพิ่มขึ้นจาก 16,507 คนเมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่ในเดือนพฤษภาคมว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกทั้งหมด หากเม็กซิโกไม่หาทางชะลอผู้เข้าเมืองจากอเมริกากลางที่หลั่งไหลมาเม็กซิโกหวังข้ามพรมแดนเข้าสหรัฐ จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนว่า เม็กซิโกจะต้องดำเนินการให้เห็นผลภายใน 45 วัน เม็กซิโกได้ส่งกองกำลังพิทักษ์ชายแดนแห่งชาติหลายพันนายไปประจำการตามพรมแดนและขยายนโยบาย Remain in Mexico รับผู้ขอลี้ภัยกลับมาพำนักในเม็กซิโกชั่วคราวระหว่างรอสหรัฐพิจารณาคำร้อง จนถึงขณะนี้รับกลับมาแล้วเกือบ 17,000 คน
ขณะเดียวกันรัฐบาลเม็กซิโกแถลงว่า ส่งผู้เข้าเมืองกลุ่มแรก 66 คนกลับประเทศบ้านเกิดแล้วตามโครงการกลับบ้านโดยสมัครใจ ประกอบด้วยชาวกัวเตมาลา ชาวฮอนดูรัส และชาวเอลซัลวาดอร์ เดินทางทางบกจากเมืองซิวดัดฮัวเรซของเม็กซิโก ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวชมเมื่อวันจันทร์ว่า เม็กซิโกทำได้ดี หลังจากรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขผู้เข้าเมืองที่ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐกักตัวไว้ที่ด่านทางใต้ลดลงถึงร้อยละ 25 เมื่อเดือนมิถุนายน ด้านประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโกยินดีที่ผู้นำสหรัฐเห็นถึงความพยายามของเม็กซิโกที่มุ่งมั่นรักษากฎหมายโดยไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและลดจำนวนผู้เข้าเมือง.-สำนักข่าวไทย