ซิดนีย์ 29 พ.ค.- สื่อออสเตรเลียรายงานว่า ขยะจากออสเตรเลียกำลังท่วมหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย
เว็บไซต์ news.com.au ลงภาพถ่ายภูเขาขยะที่นายเกรแฮม เคราช์ ช่างภาพคนหนึ่งบันทึกได้ในหมู่บ้านบังกุนที่อยู่ห่างจากออสเตรเลียไปหลายพันกิโลเมตร เห็นขยะที่ชาวออสเตรเลียคุ้นตาเป็นอย่างดีเพราะเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างกล่องนม ถุงพลาสติกใส่ข้าวสาร สื่อในพื้นที่รายงานว่า ชาวบ้านยังชีพด้วยการนำขยะเหล่านี้ไปขาย นอกจากออสเตรเลียแล้วยังมีขยะจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐและจีนด้วย ว่ากันว่าขยะเหล่านี้เป็นขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลหมุนเวียนมาใช้ใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมีขยะพลาสติกผิดกฎหมายปะปนมาเป็นจำนวนมาก ขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ก็จะถูกเผาทิ้ง ก่อมลพิษทางอากาศ
รายงานระบุว่า ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่อาจนึกไม่ถึงว่าขยะแต่ละชิ้นที่แต่ละคนทิ้งลงในถังขยะ จะไปโผล่ในประเทศที่อยู่ไกลออกไป และกำลังจะต้องรับผลที่ก่อไว้ในอีกไม่นาน เพราะหลายประเทศในอาเซียนอย่างไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์เริ่มต่อต้านไม่ยอมเป็นถังขยะของโลกอีกต่อไป หมู่บ้านบังกุนเริ่มเต็มไปด้วยขยะพลาสติกตั้งแต่ปีก่อน เมื่อรัฐบาลจีนประกาศห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศ รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศแบบเดียวกันในเดือนมีนาคม หลังจากผลการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมพบว่า ร้อยละ 30 ของขยะที่ส่งมาจังหวัดชวาตะวันออกโดยอ้างว่าเป็นเศษกระดาษ แท้จริงแล้วเป็นขยะพลาสติกผิดกฎหมาย กระทรวงสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซียเรียกร้องให้ห้ามนำเข้าพลาสติกโดยสิ้นเชิงตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
ผลการวิเคราะห์ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและพลังงานออสเตรเลียพบว่า ออสเตรเลียส่งออกขยะปีละ 1.29 ล้านตัน อ้างอิงตามตัวเลขปี 2560 และ 2561 สมาคมการจัดการขยะและฟื้นฟูทรัพยากรออสเตรเลียตำหนิรัฐบาลกลางว่าไม่ทำอะไรเลยตั้งแต่จีนห้ามนำเข้าขยะ ทั้งที่ขยะครัวเรือนที่สามารถรีไซเคิลได้ 1.2 ล้านตันสามารถสร้างงานและการลงทุนได้หากให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียนที่นำวัตถุดิบที่ผ่านการบริโภคแล้วมาเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่หรือใช้ซ้ำ.- สำนักข่าวไทย