สถานทูตเตือนนักท่องเที่ยวไทย “ไฟป่าเกาหลีใต้” ลามเข้าเมือง

เกาหลีใต้ 6 เม.ย.- สถานทูตไทยในเกาหลีใต้ เตือนคนไทย หลังไฟป่าจังหวัดคังวอนลามเข้าเมือง ขอให้นักท่องเที่ยวไทยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด


รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติครั้งแรกในรอบ 14 ปี ในขณะที่หน่วยดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ รวมกันกว่า 10,000 นาย พร้อมด้วยรถดับเพลิงอีกหลายร้อยคันจากทั่วประเทศ และเฮลิคอปเตอร์กองทัพ ยังคงเดินหน้าควบคุมไฟป่าครั้งใหญ่ที่กำลังลุกลามพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศใกล้กับชายแดนติดกับเกาหลีเหนือ โดยไฟป่าดังกล่าวเริ่มต้นมาจากเมืองโกซอง จังหวัดคังวอน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น

ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังเมืองซอกโชและคังนึง เพราะกระแสลมแรง ทำลายบ้านเรือนนับร้อยหลัง โกดังสินค้า 11 แห่ง ยอดผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน และต้องอพยพออกกว่า 4,000 คน ส่วนโรงเรียน 52  แห่งปิดทำการในวันนี้ และถนนหลายสายกับรถไฟก็หยุดให้บริการ


ด้านประธานาธิบดีมุน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ได้เรียกประชุมฉุกเฉินและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ทุกวิถีทางที่มีในการดับไฟป่าครั้งนี้ และมีรายงานว่าประธานาธิบดีมุนได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจดูสถานการณ์แล้ว

ทั้งนี้ ทางการเกาหลีใต้กำลังหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดไฟป่าครั้งนี้อยู่ แต่สำหรับกรณีไฟป่าในเมืองโกซองมีพยานเปิดเผยว่า พวกเขาเห็นและได้ยินเสียงระเบิดของเสาโทรศัพท์ ซึ่งบริษัทการไฟฟ้าเกาหลีกล่าวว่า อาจเป็นเพราะสายไฟทำปฏิกิริยากับฝุ่นในอากาศที่แห้งจัด

สถานทูตไทยในเกาหลีใต้ เตือนคนไทย หลังไฟป่าจังหวัดคังวอน ห่างจากกรุงโซลทางทิศตะวันออก ลามเข้าเมือง ขอให้นักท่องเที่ยวไทยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด


เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล (Royal Thai Embassy , Seoul) ออกประกาศเตือนสถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่ จ.คังวอน ในเกาหลีใต้ ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.17 น.ของวันที่ 4 เมษายน 2562 ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 5 เมษายน 2562 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบริเวณเมืองโทซองมยอน เขตโคซองกุน จ.คังวอน ห่างจากกรุงโซลทางทิศตะวันออก ประมาณ 210 กิโลเมตร และยังขยายวงกว้างตามแรงลม ทำให้ไฟลุกลามไปเมืองโกซอง เมืองอินเจ เมืองซกโซ เมืองคังนึง และเมืองดงแฮ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศให้ 5 เมืองดังกล่าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในวันที่ 5 เมษายน 2562 คาดว่าบริเวณที่เกิดเหตุไฟป่าจะมีลมพัดแรง อาจส่งผลต่อความยากลำบากในการควบคุมไฟ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ชาวไทยในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยใน จ.คังวอน และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางไปในบริเวณดังกล่าว ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำจากทางการเกาหลีใต้อย่างเคร่งครัด โดยสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัคราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข +82 10 6747 0095.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่