ค้นพบโปรตีนที่ทำให้ผิวอ่อนเยาว์

โตเกียว 4 เม.ย.- คณะนักวิจัยญี่ปุ่นค้นพบโปรตีนที่ทำให้ผิวคงสภาพดังเดิม อ่อนเยาว์ ไม่โรยราไปตามวัย ตั้งเป้านำไปผลิตผลิตภัณฑ์ยับยั้งผิวเสื่อมสภาพและช่วยฟื้นฟูผิว รวมทั้งอาจช่วยฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อบุผิวของอวัยวะอื่น ๆ ได้ด้วย


คณะนักวิจัยในคณะชีววิทยาสเตมเซลล์ มหาวิทยาลัยแพทย์และทันตแพทย์โตเกียวเผยผลการศึกษาลงในวารสารเนเจอร์ฉบับวันนี้ว่า ผลการศึกษาหางหนูที่มีความคล้ายคลึงกับผิวหนังคนพบว่า โปรตีนที่ทางคณะนักวิจัยตั้งชื่อชั่วคราวว่า  COL17A1 ช่วยส่งเสริมให้เซลล์แข่งขันกัน เป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้เนื้อเยื่อสมบูรณ์เพราะจะกำจัดเซลล์อ่อนแอและเพิ่มจำนวนเซลล์แข็งแรง ปกติแล้วเซลล์ที่ดีจะกำจัดเซลล์เสียหายในผิวหนังของคนเราทุกวันอยู่แล้ว แต่วัยที่มากขึ้นทำให้โปรตีนตัวนี้ถูกทำลาย เช่นเดียวกับปัจจัยทำร้ายผิวอื่น ๆ เช่น รังสียูวี เมื่อโปรตีนส่งเสริมให้เซลล์แข่งขันกันมีจำนวนลดลง ก็จะเปิดช่องให้เซลล์อ่อนแอเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นเหตุให้ผิวบางลง เสี่ยงเสียหายง่ายขึ้น และฟื้นฟูได้ช้าลง 

คณะนักวิจัยจึงหาทางว่า จะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโปรตีน COL17A1 ขึ้นใหม่ทันทีที่ถูกทำลายได้หรือไม่ ด้วยการศึกษาหาสารเคมีที่จะกระตุ้นกระบวนการต่อต้านความชราในผิว ในที่สุดสามารถแยกสารประกอบเคมีสองชนิดคือ Y27632 และอะโปไซนิน (apocynin) แล้วทดสอบกับเซลล์ผิวหนัง พบว่าให้ผลน่าพอใจ จากนั้นได้ทดสอบกับผิวจริง พบว่าสามารถฟื้นฟูผิวที่เสียหายได้ผลดีอย่างเห็นได้ชัด สารประกอบเคมีทั้งสองชนิดนี้กระตุ้นการฟื้นฟูผิวและลดความชราของผิวลงได้ คณะนักวิจัยจะประสานงานกับบริษัทเวชภัณฑ์หรือบริษัทเครื่องสำอางเรื่องทำการทดลองเชิงคลีนิกต่อไป และจะวิจัยเพิ่มเติมว่ากระบวนนี้จะให้ผลกับเซลล์เนื้อเยื่อบุผิวด้วยหรือไม่ เพื่อนำไปใช้คงความอ่อนเยาว์ของอวัยวะอื่น ๆ ต่อไป.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย