ปารีส 3 ธ.ค.- ประธานาธิบดีเอมานูว์เอล มาครงของฝรั่งเศสขอให้ทางการกรุงปารีสประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยรับมือการประท้วงในอนาคต หลังเสียหายหนักจากการประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่กลายเป็นการจลาจลในเขตเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบทศวรรษ
ประธานาธิบดีมาครงเรียกประชุมฉุกเฉินที่ทำเนียบประธานาธิบดี ทันทีที่กลับมาจากการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี 20) ที่อาร์เจนตินา ทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่า ประธานาธิบดีได้ขอให้รัฐมนตรีมหาดไทยทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการประท้วง และขอให้นายกรัฐมนตรีเปิดการหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการประท้วง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กรุงปารีสช่วยกันทำความสะอาดสถานที่สำคัญหลายแห่งและย่านช็องเซลีเซ แหล่งร้านค้าและร้านอาหารหรู ที่เต็มไปด้วยซากรถถูกเผา กระจกหน้าต่างแตกกระจาย กำแพงสถานที่สาธารณะรวมทั้งประตูชัยถูกพ่นสีเลอะเปรอะเปื้อน ตำรวจเผยว่า มีผู้บาดเจ็บ 133 คน เป็นตำรวจ 23 นาย ผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงกับตำรวจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีทั้งค้อน เครื่องมือทำสวน กระป๋องก๊าซ และหิน มีนักเคลื่อนไหวขวาจัดและซ้ายจัดปะปนอยู่ในผู้ประท้วงด้วย ด้านอัยการเผยว่า มีผู้ถูกควบคุมตัว 378 คนจนถึงเย็นวันอาทิตย์ ในจำนวนนี้ 33 คนเป็นผู้เยาว์
การประท้วงรัฐบาลฝรั่งเศสเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน เริ่มจากผู้ขับขี่ไม่พอใจการขึ้นภาษีดีเซลซึ่งเป็นน้ำมันที่คนส่วนใหญ่ใช้ ใช้สัญลักษณ์การประท้วงเป็นเสื้อกั๊กสีเหลืองสะท้อนแสงเพราะเป็นสิ่งที่ยวดยานทุกคันต้องมีไว้ในรถเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน การประท้วงขยายวงเป็นการแสดงความไม่พอใจรัฐบาลที่ไม่ใส่ใจปัญหาปากท้องของคนทั่วไป มีการนัดแนะกันชุมนุมครั้งที่ 4 ในวันเสาร์หน้า จุดกระแสวิตกว่าจะเกิดเหตุรุนแรงอีก.-สำนักข่าวไทย