ทบิลิซี 29 พ.ย.- จอร์เจีย อดีตสาธารณรัฐในสหภาพโซเวียตได้ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ หลังจากผลการเลือกตั้งรอบสองเมื่อวานนี้ชี้ว่า นางซาโลเม ซูราบิชวิลี อดีตนักการทูตเกิดในฝรั่งเศสเป็นผู้ชนะ
ผลคะแนนที่นับเสร็จสิ้นในวันนี้ระบุว่า นางซูราบิชวิลี วัย 66 ปี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศปี 2547-2548 ได้คะแนนร้อยละ 59.52 ทิ้งห่างนายกรีกอล วาชาดเซ วัย 60 ปี ผู้สมัครตัวแทนพันธมิตรฝ่ายค้าน 11 พรรคที่ได้คะแนนร้อยละ 40.48 นางซูราบิชวิลีได้รับการสนับสนุนจากนายบิดซินา อิวานิชวิลี วัย 62 ปี มหาเศรษฐีและอดีตนายกรัฐมนตรีปี 2555-2556 ที่หลายคนมองว่าเป็นผู้นำตัวจริงเพราะเป็นผู้ก่อตั้งพรรครัฐบาล นายมีเคอิล ซาคาชวิลี วัย 50 ปี อดีตประธานาธิบดีที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2547-2556 และเป็นคู่อริกับนายอิวานิชวิลีกล่าวหาตั้งแต่ยังไม่รู้ผลการเลือกตั้งว่ามีการโกงมโหฬาร พร้อมกับชักชวนชาวจอร์เจียออกมาชุมนุมอย่างสงบเพื่อกดดันให้ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ นายซาคาชวิลีหนีออกนอกประเทศตั้งแต่ปี 2556 ถูกถอดสัญชาติและถูกตัดสินลับหลังให้จำคุก 6 ปีข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นางซูราบิชวิลีชนะนายวาชาดเซอย่างเฉียดฉิวเพียงร้อยละ 39 ต่อ 38 ฝ่ายค้านพากันกล่าวหาก่อนการเลือกตั้งรอบสองว่า รัฐบาลข่มขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและทำร้ายคณะหาเสียงฝ่ายค้าน ขณะที่กลุ่มสิทธิกล่าวหารัฐบาลว่ากว้านซื้อเสียงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และยังโกงการเลือกตั้งด้วยการพิมพ์บัตรประชาชนปลอม ด้านนางซูราบิชวิลีอ้างว่า เธอและลูก ๆ ถูกกลุ่มสนับสนุนฝ่ายค้านขู่เอาชีวิตทั้งทางข้อความสั้นและข้อความเสียงทางโทรศัพท์
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบททดสอบของจอร์เจียที่หวังจะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อีกทั้งยังเป็นบททดสอบก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2563 จอร์เจียเคยเกิดสงครามกลางเมือง การประท้วงใหญ่ และเหตุไม่สงบเมื่อประกาศตัวเป็นเอกราชหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและหวังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ.- สำนักข่าวไทย