ปารีส 17 พ.ย.- ผู้ขับขี่ในฝรั่งเศสจะจอดรถกีดขวางการจราจรทั่วประเทศในวันนี้ ประท้วงรัฐบาลที่ขึ้นราคาน้ำมัน และกล่าวหาประธานาธิบดีเอมานูว์เอล มาครงว่าทอดทิ้งประชาชนตัวเล็ก ๆ
ผู้ประท้วงใช้เสื้อกั๊กสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์การประท้วง คาดว่าจะชุมนุมกันไม่ต่ำกว่า 700 จุด ทางการฝรั่งเศสเตือนว่า แม้ไม่ห้ามการชุมนุมแต่ก็จะไม่ยอมให้กีดขวางการจราจรจนเป็นอัมพาต ผู้ประท้วงเคยพยายามชุมนุมในช่วงที่ประธานาธิบดีมาครงเยือนเมืองอัลแบร์ต ทางเหนือของประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ถูกตำรวจผลักดันออกไป ครั้งนี้ผู้ชุมนุมช่วยกันกระจายข่าวผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ด้วยการติดแฮชแท็กเป็นภาษาฝรั่งเศส #GiletJaune (แปลว่าเสื้อกั๊กเหลือง) และ #17novembre (วันที่ 17 พ.ย.) ทำให้จุดชุมนุมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บางกลุ่มขู่จะปิดมอเตอร์เวย์และถนนมุ่งไปยังคลังน้ำมัน บางกลุ่มจะนำถุงขยะไปคลุมกล้องวงจรปิด และหลายกลุ่มจะสวมเสื้อกั๊กเหลืองประท้วงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
เอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของยวดยานทั่วไปในฝรั่งเศสปรับขึ้นร้อยละ 23 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เป็นลิตรละ 1.51 ยูโร (ราว 56.65 บาท) สูงที่สุดตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 2000 เอเอฟพีระบุว่า ในขณะที่ราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นแล้วย่อลง รัฐบาลฝรั่งเศสกลับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 7.6 เซนต์ (ราว 2.85 บาท) และน้ำมันเบนซินอีกลิตรละ 3.9 เซนต์ (ราว 1.46 บาท) ตามนโยบายรณรงค์ให้ใช้พลังงานสะอาด ล่าสุดรัฐบาลประกาศขึ้นราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินอีกลิตรละ 6.5 เซนต์ (ราว 2.44 บาท) และ 2.9 เซนต์ (ราว 1.08 บาท) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า จึงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผู้ขับขี่ทนไม่ไหว.-สำนักข่าวไทย