ลอนดอน 16 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษประกาศเดินหน้าไม่ถอย หลังจากรัฐมนตรีหลายคนพากันลาออกประท้วงข้อตกลงสหราชอาณาจักร (ยูเค) ออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท ที่อังกฤษตกลงกับอียูเมื่อไม่กี่วันก่อน
สำนักข่าวเอเอฟพีตั้งสมมติฐานที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ไว้ 5 ความเป็นไปได้ ความเป็นไปได้แรกคือ นายกรัฐมนตรีเมย์อาจถูกพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอลงมติไม่ไว้วางใจ หาก สส.พรรคอย่างน้อย 48 คน คิดเป็นร้อยละ 15 ของ สส.พรรคทั้งหมด 315 คน ยื่นขอ หากเธอรอดจากการลงมติก็จะอยู่ในตำแหน่งได้อีกอย่างน้อยหนึ่งปี หากไม่รอดก็จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ อาจกระทบต่อกรอบเวลาเบร็กซิทที่ยูเคจะต้องออกจากอียูในวันที่ 29 มีนาคมปีหน้า และหัวหน้าพรรคคนใหม่ซึ่งจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยอาจเรียกร้องขอเปิดเจรจาใหม่กับอียู
ความเป็นไปได้ที่สอง สส.อังกฤษลงมติเห็นชอบข้อตกลงเบร็กซิทในต้นเดือนหน้า หลังจากผู้นำชาติสมาชิกอียูลงนามเห็นชอบในการประชุมสุดยอดวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ พรรคอนุรักษ์นิยมมีเสียงข้างมากในสภา 650 คน เล็กน้อยเมื่อรวม สส.พรรค 315 คนกับ สส.10 คนของพรรคดียูพีจากไอร์แลนด์เหนือ ความเป็นไปได้ที่สาม สส.อังกฤษไม่เห็นชอบข้อตกลงเบร็กซิทเพราะ สส.พรรคดียูพีประกาศแล้วว่าไม่เห็นด้วย เปิดทางให้พรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านมี สส. 257 คนยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หากนางเมย์พ่ายการลงมติก็ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ อีกทางหนึ่ง สส. 2 ใน 3 อาจลงมติให้จัดการเลือกตั้งใหม่เลยโดยไม่ต้องมีการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ
ความเป็นไปได้ที่สี่ หาก สส.ไม่รับข้อตกลงเบร็กซิทและไม่มีการเจรจากับอียูอีก ยูเคก็จะตัดขาดความสัมพันธ์กับอียูทุกอย่างทั้งด้านเศรษฐกิจ กฎหมายและความมั่นคงเมื่อถึงวันที่ 29 มีนาคมปีหน้า กระทบต่อการเคลื่อนย้ายสินค้า แรงงานและทุนอย่างเสรีที่มีมาก่อนหน้านี้ ความเป็นไปได้สุดท้ายคือ จัดการลงประชามติเบร็กซิทใหม่ หลังจากจัดไปเมื่อปี 2559 ซึ่งต้องเวลาไม่ต่ำกว่า 5 เดือนในการดำเนินการและต้องขอให้อียูยอมชะลอเบร็กซิทด้วย.-สำนักข่าวไทย