โตเกียว 31 ส.ค.- กระทรวงการป้องกันประเทศญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า กระทรวงขอจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อยกระดับระบบป้องกันภัยขีปนาวุธและเสริมสร้างการป้องกันภัยทางอากาศ ท่ามกลางภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและจีน
กระทรวงการป้องกันประเทศต้องการงบประมาณมูลค่า 5.2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) สำหรับปีการเงินหน้าที่นับจากเดือนเมษายน นับเป็นตัวเลขประจำปีที่เพิ่มขึ้นมาเป็นปีที่ 7 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากปีที่แล้ว ในกลุ่มรายการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกระทรวงการป้องกันประเทศญี่ปุ่นรวมถึงระบบต่อต้านขีปนาวุธ Aegis Ashore ของสหรัฐ เพื่อป้องกันประเทศจากภัยคุกคามทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมมูลค่า 234,300 ล้านเยน
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องการเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 อีก 6 ลำ ระบบเรดาร์ฮอว์กอาย อี-2ดี 2 เครื่อง และเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล โดยยกระดับหน่วยลาดตระเวนทางอากาศด้วยการเพิ่มกำลังพลอีก 30 คน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 830 คน การเรียกร้องงบกลาโหมจำนวนมหาศาลกำลังเป็นประเด็นร้อนในการพิจารณางบประมาณกลาโหมประจำปีของกระทรวงป้องกันตนเองญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่าเกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงใกล้ตัวและน่าวิตกอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีความพยายามสานสัมพันธ์บนคาบสมุทรเกาหลีในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายงานของกระทรวงป้องกันตนเองญี่ปุ่นยังพุ่งเป้าหมายไปที่การเสริมแสนยานุภาพทางทหารของจีน โดยอ้างว่าจีนสร้างความกังวลด้านความมั่นคงให้กับญี่ปุ่น รวมทั้งภูมิภาคและประชาคมโลก .- สำนักข่าวไทย