ลอนดอน 29 ส.ค.- สหประชาชาติแถลงวันนี้ว่า เด็กผู้ลี้ภัยในวัยเรียนจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งทั่วโลกไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนได้ เนื่องจากประเทศที่รองรับกำลังประสบปัญหาวิกฤติมนุษยธรรมมากขึ้น
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติมีรายงานว่า เด็กผู้ลี้ภัย 4 ล้านคนทั่วโลกไม่ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 500,000 คนจากปีก่อน นายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยยูเอ็น กล่าวว่า การศึกษาเป็นหนทางที่จะช่วยเยียวยาเยาวชนและช่วยฟื้นฟูประเทศชาติได้ ยูเอ็นเอชซีอาร์รายงานว่า ตัวเลขผู้อพยพในความดูแลของยูเอ็นมีจำนวนเกือบ 20 ล้านคนนับจนถึงสิ้นปี 2560 ยังไม่รวม ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ราว 5 ล้านคน ขณะที่ผู้ไร้ที่อยู่อาศัยทั่วโลกมีจำนวนมากขึ้น ข้อมูลระบุว่าผู้ลี้ภัยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก และจำนวน 7.4 ล้านคนอยู่ในวัยเรียน มีเพียงร้อยละ 61 ของเด็กผู้ลี้ภัยที่ได้เข้าศึกษาต่อในระดับประถมศึกษา เมื่อเทียบกับกว่าร้อยละ 90 ของเด็กทั่วไป สัดส่วนตัวเลขดังกล่าวยิ่งลดลงในเด็กโต โดยมีเด็กผู้ลี้ภัยไม่ถึงหนึ่งในสี่ที่ได้ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา และมีเพียงร้อยละ 1 ที่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ยูเอ็นเอชซีอาร์รายงานว่า เด็กผู้ลี้ภัยอีก 500,000 คนได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว แต่ประชากรผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สัดส่วนเด็กผู้ลี้ภัยที่ขาดโอกาสในการเรียนหนังสือต่อไม่ได้ลดลงนัก อย่างไรก็ตามยูเอ็นพยายามที่จะหาทางช่วยเหลือ เช่น การจัดสรรทุนสนับสนุนพิเศษ และลดปัญหาอุปสรรคในการเข้าเรียนที่จำเป็นต้องมีเอกสารหลักฐานสำคัญรับรองตัวบุคคล .- สำนักข่าวไทย