กัวลาลัมเปอร์ 8 ส.ค. – รัฐบาลมาเลเซียมีแผนการที่จะประกาศใช้ระเบียบลักษณะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีชาวมุสลิมในสถานที่ทำงาน แต่แผนดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มพิทักษ์สิทธิสตรี โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวเหมือนเป็น “ตำรวจสายตรวจแฟชั่น”
ประเทศมาเลเซีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนั้น มีระเบียบห้ามสตรีมิให้สวมชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น เข้าไปในสถานที่ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ในขณะที่สตรีที่ทำงานในหน่วยงานรัฐบาลก็จะต้องปฎิบัติตามระเบียบที่ห้ามสวมเสื้อแขนกุด หรือ กระโปรงที่มีความยาวเหนือหัวเข่า แต่ล่าสุดด รัฐบาลประกาศว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการร่างแนวทางปฏิบัติสำหรับสตรีมุสลิมที่ทำงานในภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการของศาสนาอิสลาม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องระเบียบเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีที่ทำงานในภาคเอกชน แต่กลุ่มปกป้องสิทธิสตรีของมาเลเซียต่างก็ออกมาประนามเรื่องระเบียบกายแต่งกาย สมาชิกรายหนึ่งของกลุ่มสิทธิสตรีกล่าวว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานที่มีแนวทางที่จะตรวจสอบรูปร่างและเสื้อผ้าของสตรี ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงได้หมกมุ่นในเรื่องที่ว่า สตรีจะสวมชุดอะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วควรจะให้ความสนใจในเรื่องความสามารถหรือพรสวรรค์ ในขณะที่สิ่งสุดท้ายที่ควรจะนึกถึงคือเรื่องของความยาวของกระโปรงของผู้หญิง ทางด้านรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องกิจการศาสนากล่าวก่อนหน้านี้ว่า แนวทางเรื่องเครื่องแต่งกายมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสตรีมุสลิมที่ต้องการสวมผ้าคลุมศีรษะตามแบบศาสนาอิสลาม ทางด้านกลุ่มเคร่งศาสนาเคยวิพากษ์วิจารณ์เครื่องแบบของพนักงานสตรีของสายการบินที่รัดรูปเกินไป นอกจากนั้น ก็ร้องเรียนกรณีที่โรงแรมบางแห่งไม่อนุญาตให้สตรีที่ทำงานในแผนกต้อนรับสวมผ้าคลุมศีรษะ.-สำนักข่าวไทย