สปป.ลาว 25 ก.ค. – สถานการณ์ล่าสุดเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวแตก พบว่ามีพื้นที่เสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่บริษัทสัญชาติไทยซึ่งร่วมทุนในโครงการเขื่อนดังกล่าวได้มอบเงิน 1,300 ล้านกีบ ให้ทางการลาว และส่งทีมผู้บริหารลงพื้นที่แล้ว
สำนักข่าวสารประเทศลาว ซึ่งเป็นสำนักข่าวอย่างเป็นทางการของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รายงานว่า เหตุการณ์เขื่อนดินย่อยส่วน D ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “เซเปียน-เซน้ำน้อย” ที่ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสักและแขวงอัตตะปือ ทรุดตัวและแตกร้าว จนเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ท้ายเขื่อน ทางการแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสักรายงานว่า มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก แต่ยังไม่สรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ ขณะนี้กำลังต้องการเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่มสะอาด รวมถึงเวชภัณฑ์จำนวนมาก เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ไร้ที่พักพิง
ขณะที่นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาว ได้ยกเลิกการประชุมคณะรัฐมนตรี และเดินทางลงพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ให้การช่วยเหลือทางการลาวอย่างเต็มที่ พร้อมสั่งให้ส่งทีมกู้ภัยฉุกเฉินชั้นนำของประเทศเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรง โดยโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุด้วยว่า สาเหตุที่เกาหลีใต้ส่งทีมช่วยเหลือเข้าไป เนื่องจากต้องมีส่วนรับผิดชอบจากการที่มีบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทุนก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว
ขณะที่ล่าสุด บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมทุนก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว เผยแพร่เอกสารอย่างเป็นทางการ โดยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อชาวลาวที่ได้รับผลกระทบ พร้อมมอบเงินสนับสนุน 1,300 ล้านกีบ หรือ ประมาณ 5 ล้านบาท ให้แก่ สปป.ลาว และส่งทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้เดินทางไปลาว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมประสานจังหวัดอุบลราชธานี และ กฟผ. ช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค และสาธารณูปโภคชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่ง
ขณะที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มอบถุงยังชีพ 500 ชุด เพื่อมอบให้ผู้ประสบภัย นอกจากนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ร่วมแพ็กถุงยังชีพเพื่อส่งไปยัง สปป.ลาว ก่อนลำเลียงขึ้นรถเดินทางต่อไปยังจุดหมาย. – สำนักข่าวไทย