ฝรั่งเศส 2 พ.ค.-บรรยากาศวันแรงงานในยุโรปเต็มไปด้วยความวุ่นวาย โดยเฉพาะที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส เมื่อเกิดจลาจลรุนแรง มีผู้ประท้วงถูกจับไปเกือบ 300 คน
ผู้ประท้วงราว 1200 คนซึ่งสวมเสื้อสีดำที่มีหมวกคลุมศีรษะและหน้ากากได้แฝงเข้ามาปะปนกับสมาชิกสหภาพแรงงานที่มาร่วมชุมนุมประจำปีเนื่องในวันแรง งาน ขณะที่บางส่วนวิ่งไปจุดไฟเผาร้านฟาสต์ฟู้ดและรถยนต์หลายคันในโชว์รูม รวมแล้วมีธุรกิจร้านค้าได้รับความเสียหาย 31 แห่ง ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไปรวม 276 คนและปล่อยตัวไป 102 คนในเวลาต่อมา นับเป็นเหตุจลาจลครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือนในกรุงปารีส
ส่วนที่กรุงซานติอาโกของชิลี การชุมนุมในวันแรงงานจบลงด้วยความรุนแรง เมื่อนักศึกษาและผู้นำสหภาพแรงงานปะทะกับตำรวจปราบจลาจล หลังสหภาพแรงงานจัดการชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลของ ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญรา เรียกร้องขอสิทธิของผู้ใช้แรงงานเพิ่มขึ้น
ขณะที่ในหลายเมืองของสหรัฐก็มีบรรยากาศการชุมนุมเช่นเดียวกันแต่ส่วนใหญ่เป็นไปโดยสงบ หัวข้อใหญ่ในปีนี้เป็นเรื่องสิทธิของผู้เข้าเมือง โดยที่นครลอสแองเจลิส นอกจากจะเรียกร้องสิทธิของผู้ใช้แรงงานแล้ว ผู้ชุมนุมยังประณามความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเนรเทศผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายออกไปมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย