ฮ่องกง 6 พ.ค.- ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดของฮ่องกงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวฮ่องกงให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
สตรีวัย 27 ปี ชาวมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนใช้ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานมาเที่ยวฮ่องกงเป็นครั้งแรกกับญาติผู้ชายวัย 20 ปี ทั้งคู่ไม่ไปเดินห้างสรรพสินค้าหรู แต่เลือกเดินสำรวจย่านต่าง ๆ ในฮ่องกงเป็นเวลา 2 วัน ตามกระแสการโพสต์ภาพเดินเที่ยวย่านท้องถิ่นที่กำลังได้รับความนิยมในเสี่ยวหงซู (Xiaohongshu) แปลว่า หนังสือแดงเล่มเล็ก ซึ่งเปรียบเหมือนอินสตาแกรมของจีน นอกจากนี้ยังไปถ่ายรูปเลียนแบบท่าทางของนายลี กาชิง มหาเศรษฐีฮ่องกงที่อ่าววิคตอเรีย เพราะเชื่อว่าการเลียนแบบคนประสบความสำเร็จจะทำให้โชคดี
หนุ่มสาวชาวจีนคู่นี้เลือกพักในโรงแรมเมืองเซินเจิ้นเพราะมีราคาถูกกว่า แต่กว้างขวางและได้รับบริการดีกว่าโรงแรมในฮ่องกง แล้วนั่งรถไฟฟ้าข้ามมาฮ่องกงใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง จ่ายค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าขึ้นชิงช้าสวรรค์ใน 1 วันรวมทั้งหมด 500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 2,350บาท)
ผศ.แดเนียล เหลียง คณะการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคฮ่องกงชี้ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่องเที่ยวและใช้จ่าย คือ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า และแรงจูงใจในการท่องเที่ยวหลังโควิดเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในคนอายุน้อยกลุ่มคนเจนซี (Gen Z) ทางการฮ่องกงใช้งบประมาณปี 2567 จำนวน 1,090 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 5,125 ล้านบาท) ส่งเสริมการท่องเที่ยว มีชาวจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางเข้ามาเที่ยวมากกว่า 180,000 คน ในวันแรกของสัปดาห์หยุดยาววันแรงงาน แต่บรรยากาศในห้างหรูเงียบเหงา เพราะนักท่องเที่ยวพากันไปโพสต์ท่าถ่ายรูปตามจุดเดินชมเมืองเป็นหลัก.-814.-สำนักข่าวไทย