ออสเตรเลีย 17 เม.ย. – แพทย์ในออสเตรเลียเรียกร้องให้ทำการวิจัยอย่างเร่งด่วน เพื่อหาสาเหตุว่าเหตุใด แผลมีหนองที่เกิดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อจึงแพร่ระบาดลุกลามรวดเร็วในรัฐวิกตอเรีย
ผู้ป่วยที่เป็นแผลที่เกิดจากโรคบูรูลี หรือโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในทวีปแอฟริกา ได้เพิ่มขึ้นถึง 400% ในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบว่ามีอาการรุนแรงกว่าเดิม และแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ปัจจุบัน แพทย์ยังไม่พบวิธีป้องกันเชื้อแบคทีเรียของโรคนี้ ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังอย่างรวดเร็ว จากจำนวนที่พบผู้ป่วยโรคนี้ถึง 275 ราย ในรัฐวิคตอเรียในปี 2559 ชี้ว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 51%
ดร.แดเนียล โอไบรอัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ ระบุว่า แผลจากโรคบูรูลี หรือโรคที่เกิดจากเชื้อโรคไมโครแบคทีเรีย อัลเซอร์แรนส์ ที่พบนั้น เกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงกว่าเดิม ยังไม่แน่ชัดว่าโรคแผลบูรูลีนี้ปกติเกิดในเขตเมืองร้อน เหตุใดจึงมาเกิดในรัฐวิกตอเรียได้
จากรายงานทางการแพทย์ของวารสารทางการแพทย์ในออสเตรเลีย บรรดาแพทย์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียจัดหาทุนเพื่อทำการวิจัยโรคดังกล่าว และหาสาเหตุให้ได้โดยเร็ว หมอโอไบรอัน กล่าวว่า บางทฤษฎีตั้งสมมติฐานของโรคว่าอาจมาจากฝน ชนิดของดิน หรือจากสัตว์ป่า ปีที่แล้วมีผู้พบร่องรอยของเชื้อโรคนี้จากมูลของตัวพอสซัม
สำนักงานสาธารณสุขรัฐวิตอเรียระบุว่า ได้ทุ่มเงินไปกว่า 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในการวิจัยโรคนี้ และเริ่มรณรงค์เตือนภัยจากโรคนี้แล้ว โรคดังกล่าวพบได้บ่อยครั้งในแอฟริกาตะวันตก แอฟริกากลาง นิวกินี ละตินอเมริกา และเอเชีย ส่วนในเขตประเทศที่พัฒนาแล้วจะพบโรคนี้ได้ในพื้นที่ชุ่มชื้นและมีน้ำนิ่ง ส่วนในออสเตรเลีย พบโรคนี้ได้ตามพื้นที่ที่ติดกับทะเล. – สำนักข่าวไทย