ยูเอ็น 30 มี.ค.-สหประชาชาติแสดงความกังวลอย่างยิ่ง ต่อการที่อังกฤษนำทีมชาติพันธมิตรในยุโรปและสหรัฐขับไล่นักการทูตรัสเซียนับร้อยคนกลับประเทศ ขณะที่รัสเซียก็ตอบโต้ด้วยการขับไล่ทูตของประเทศเหล่านั้นกลับประเทศเช่นกัน พร้อมขู่จะตอบโต้ให้รุนแรงกว่านี้อีก จากชนวนเหตุพยายาม ลอบสังหารสายลับรัสเซียในดินแดนอังกฤษ
นายอันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ตึงคเรียด ที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างมหาอำนาจ 2 ขั้ว คือ รัสเซีย กับชาติตะวันตก เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ก่อนหน้านั้น นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศเนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐ 60 คน ออกจากรัสเซียภายใน 7 วัน คือ ภายในวันที่ 5 เมษายนนี้ โดยแบ่งเป็น 58 คน จากสถานทูตสหรัฐในกรุงมอสโก และอีก 2 คนจากสถานกงสุลใหญ่ในเมืองเยกาเต รินเบิร์ก พร้อมทั้งสั่งปิดสถานกงสุลใหญ่สหรัฐที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วย หลังสหรัฐเนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซีย 60 คน และสั่งปิดสถานกงสุลใหญ่ของรัสเซียในเมืองซีแอตเทิล
นายลาฟรอฟ เตือนด้วยว่า การตอบโต้ของสหรัฐจะยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีให้แย่ลงอีก หลังมีรายงานว่าสหรัฐอาจอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียที่มีอยู่ในสหรัฐ รัสเซียประกาศว่า จะใช้มาตรการตอบโต้ในระดับเท่าเทียมกันกับอีก 20 กว่าประเทศ ที่ขับทูตรัสเซียรวมกันมากกว่า 150 คน พร้อมย้ำว่ารัสเซียมีความชอบธรรมในการตรวจสอบตัวอย่างสารพิษที่อังกฤษระบุว่า คือ สารพิษโนวีช็อก ที่คิดค้นตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต โดยรัสเซียยืนยันว่า ไม่รู้เห็นกับเหตุพยายามลอบสังหารสายลับรัสเซียพร้อมลูกสาวแต่อย่างใด พร้อมระบุว่าสารพิษนี้อาจผลิตขึ้นในสาธารณรัฐเช็ก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นางยูเลีย สกริปัล วัย 33 ปี ลูกสาวของนายเซอเก สคริปัล สายลับรัสเซีย ที่ถูกโจมตีด้วยสารพิษร้ายแรง เวลานี้มีอาการดีขึ้นมาก เริ่มตอบสนอง พูดได้ แต่ยังต้องให้แพทย์ดูแลใกล้ชิด 24 ชม. ส่วนนายเซอเก ผู้พ่อ ยังมีอาการโคม่า.-สำนักข่าวไทย