อิหร่าน 3 ม.ค.- ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวหาศัตรูปลุกระดมให้เกิดประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลายวันจนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ศพ
โดยตั้งแต่เกิดการประท้วงปัญหาเศรษฐกิจและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม ที่เมืองมาชฮัด ก่อนลุกลามเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในหลายเมืองทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 22 คน ในจำนวนนี้ 9 คนนี้รวมเด็ก 1 คน เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 1 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นในเหตุประท้วงในจังหวัดอิสฟาฮาน ทางตอนกลางของประเทศ หลังกลุ่มผู้ประท้วงรุมเข้าโจมตีสถานีตำรวจและถูกตอบโต้จากฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นประท้วงครั้งรุนแรงและแพร่หลายมากที่สุด นับแต่การประท้วงผลเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2552 ที่ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน
อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกมากล่าวเรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยกล่าวหาเหล่าศัตรูของอิหร่าน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าหมายถึง อิสราเอล สหรัฐ และซาอุดีอาระเบีย ใช้วิธีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเงิน อาวุธ เกมการเมือง และหน่วยข่าวกรอง ในการสร้างปัญหาให้กับอิหร่าน หวังให้เกิดประท้วงต่อเนื่องหลายวัน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้ทวีตข้อความสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงและโจมตีเหล่าผู้นำอิหร่าน ขณะที่นางนิกกี ฮาลีย์ ทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น แถลงชื่นชมความกล้าหาญของกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านและว่าเหตุประท้วงทั่วอิหร่านเกิดขึ้นเอง ไม่ได้เพราะถูกปัจจัยภายนอกผลักดัน สหรัฐกำลังหาช่องทางจัดประชุมฉุกเฉินกรณีอิหร่านที่ยูเอ็นและที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะชาวอิหร่านกำลังร้องหาเสรีภาพ.-สำนักข่าวไทย