ซิดนีย์ 12 ต.ค. – ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ของออสเตรเลีย หรือเอซีเอสซีเผยวันนี้ว่า การใช้มัลแวร์โจมตีระบบของสำนักพยากรณ์อากาศออสเตรเลียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาซึ่งอาจลามไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลมีต้นตอจากหน่วยงานข่าวกรองของต่างประเทศ
รายงานของเอซีเอสซีไม่ได้ระบุว่า เป็นการโจมตีจากประเทศใด แต่จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อมูลคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญอิสระที่กล่าวหาจีนและรัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์หลายครั้ง มัลแวร์ที่ถูกตรวจพบเป็นเครื่องมือที่เปิดช่องให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครือข่ายหน่วยงานของรัฐบาลออสเตรเลียจากระยะไกล หรือ RAT โดยถูกส่งมาพร้อมกับมัลแวร์อื่นๆ เอซีเอสซีตรวจพบเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ของระบบรัฐบาลทั้งสิ้น 1,095 เหตุการณ์ภายในระยะเวลา 18 เดือนจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ถือว่าร้ายแรงมากถึงขั้นที่จำเป็นต้องมีมาตรการตอบโต้ และว่า ระบบควบคุมความปลอดภัยปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะป้องกันเครือข่ายจากภัยคุกคามที่มาพร้อมกับอาชญากรรมทางไซเบอร์
สื่อออสเตรเลียอ้างแหล่งข่าวความมั่นคงภายในเมื่อครั้งที่เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ว่าเป็นฝีมือของจีน แต่กระทรวงการต่างประเทศจีนปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย การค้าทวิภาคีในปี 2556 มีมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4 ล้านล้านบาท) และได้เริ่มข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เกิดเหตุดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย