พนมเปญ 6 พ.ย.- การพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วของกัมพูชา ทำให้คนยากจนถูกทอดทิ้ง และขาดสุขอนามัยที่ดีในการดำรงชีวิต จากปัญหามลพิษในแหล่งน้ำ
คลองบำบัดน้ำเสียเบืองตระเบ็ก ในกรุงพนมเปญหรือรู้จักกันในชื่อคลองน้ำเน่า ขุดขึ้นระหว่างปี 2486 ถึง 2501 ตัดผ่านแยกต่างๆ 30 แยกลดเลี้ยวไปตามย่านต่างๆ ในเมืองหลวงออกไปจนถึงชานเมืองทางด้านทิศใต้ เดิมทีคลองแห่งนี้ถูกออกแบบเพื่อรองรับประชากรเพียงแค่ 5 แสนคน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ล้านคน ทำให้คลองแห่งนี้สกปรกอย่างยิ่ง เพราะเต็มไปด้วยขยะพลาสติกเข้าไปปิดกั้นทางน้ำและสะสมกองอยู่ตามหลังสะพาน บริเวณปลายสุดทางทิศใต้ของคลองที่เรียกว่า เบืองตระเบ็ก เป็นแหล่งชุมชนแออัด น้ำเสียจากบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ขยะลอยฟ่องเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าโชย รวมไปถึงน้ำเสีย ล้วนไหลมากองสะสมอยู่บริเวณนี้
เซือง ซารัน จากซาห์มากุม เทือง โนล องค์กรนอกภาครัฐที่ทำงานเกี่ยวกับปัญหาในเขตเมืองบอกว่า คลองแห่งนี้เป็นอันตรายอย่างมากต่อชุมชน ชาวบ้านมีปัญหาสุขภาพ แถมยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ผู้หญิงและเด็กๆเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านซึ่งตั้งอยู่ริมคลอง แต่พิษภัยและกลิ่นเหม็นเน่าของขยะไม่ได้ทำให้คนเหล่านี้หวาดเกรงที่จะอาศัยและทำงานอยู่ใกล้ๆคลอง เพราะค่าเช่าบ้านเพียงเดือนละ 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,200 บาท ถูกที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้แล้ว
สเรย์ รัธ ชาวบ้านในชุมชนบอกว่า ในช่วงน้ำท่วมสภาพยิ่งเลวร้ายมาก ชาวบ้านใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก น้ำท่วมขังอยู่นาน ขยะไหลเข้ามากองอยู่ในบ้านส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก ทำให้ล้มป่วยเป็นไข้ ไอ และปอดติดเชื้อ แม้จะขาดสุขอนามัยที่ดี แต่ชาวบ้านริมคลองน้ำเน่าบางคนก็กลัวว่า หากคลองสายนี้สะอาดและโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายมาถึง พวกเขาอาจถูกไล่ที่ได้ พวกเขายังคงต้องการอาศัยอยู่ที่นี่และหวังให้หน่วยงานต่างๆเข้ามาช่วยทำความสะอาด ด้านทางการท้องถิ่นและตำรวจก็กำลังเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาให้ชุมชน แต่ก็ต้องการให้ชาวบ้านช่วยกันรักษาความสะอาดและหยุดทิ้งขยะลงในคลองด้วย.-สำนักข่าวไทย