โตเกียว 29 พ.ค.- นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ข้อความถึงประชาชน กรณีการปะทะกันบริเวณพรมแดน โดยเรียกร้องให้อยู่ในความสงบ ไม่แตกตื่นและรับฟังข่าวสารที่ถูกต้อง
นายฮุน มาเนต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า แม้จะมีภารกิจในต่างประเทศ แต่ความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติและการบังคับบัญชากองทัพ รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งกำลังทหาร ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา โดยได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องถึงการติดต่อกับฝ่ายไทยเพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่มีเจตนารุกราน แต่ก็สงวนสิทธิในการป้องกันการรุกราน นอกจากนั้นเขายังได้ร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ไม่ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องที่แพร่กระจายอยู่ และเรียกร้องไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ
โพสต์บนโซเชียลมีเดียแบบเต็มของนายฮุน มาเนต ระบุดังนี้ :
“ข่าวการยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและไทยบริเวณชายแดนบริเวณสามเหลี่ยมมรกตเมื่อวานนี้ รวมถึงการระดมกำลังทหารและอาวุธหนักไปยังชายแดนในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศ ได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ชายแดนว่า สงครามจะปะทุหรือไม่ ใครจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ หรือสั่งเคลื่อนกำลังพลเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ต่างประเทศ
ผมขอรับรองให้ชาวกัมพูชามั่นใจว่า แม้ผมจะอยู่ที่ญี่ปุ่นและมีกำหนดการประชุมเต็มรูปแบบ แต่การบังคับบัญชาและลำดับชั้นของการปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญ เช่น การเคลื่อนกำลังพล ยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผมอย่างเต็มที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ผมได้รับรายงานความคืบหน้าทั้งหมดที่ชายแดนอย่างต่อเนื่องจากรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการกองทัพบก รวมถึงผลของการสื่อสารกันระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการยกระดับความตึงเครียดและฟื้นคืนความสงบและความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างกองกำลังแนวหน้าของเรา
ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจสำคัญใด ๆ รวมทั้งการระดมกำลังทหารและอาวุธไปยังชายแดน ต้องได้รับการอนุมัติหรือคำสั่งโดยตรงจากผม
ผมไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างกองกำลังทหารจากทั้งสองฝ่าย ที่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศหรือประชาชนของเรา โดยเฉพาะทหารที่ประจำอยู่แนวหน้า
ด้วยเหตุนี้ ผมหวังว่าการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างผู้บัญชาการกองทัพของกัมพูชาและไทยจะเกิดผลเชิงบวกต่อการรักษาเสถียรภาพและการสื่อสารทางทหารที่ดีระหว่างสองประเทศ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ กัมพูชาไม่ได้เจตนาที่จะรุกรานประเทศใด เราต้องการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพรมแดนโดยอาศัยหลักการทางเทคนิคและกฎหมายระหว่างประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม กัมพูชายังสงวนสิทธิใช้ทุกทางที่จำเป็นเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงกองกำลังทหาร หากเกิดการรุกรานหรือการบุกรุกใด ๆ
ดังนั้น ผมขอเรียกร้องให้พลเมืองกัมพูชาทุกคนอยู่ในความสงบ ไม่ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องที่แพร่กระจายอยู่ ผมขอเรียกร้องให้ทุกคนป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขอให้ไว้วางใจในรัฐบาลและกองกำลังของเราอย่างเต็มที่ในการแสวงหาทางแก้ไขอย่างมีความรับผิดชอบ”
นายกรัฐมนตรีของกัมพูชายังได้โพสต์ภาพเก่าของเขาในเครื่องแบบทหาร ขณะเดินทางไปบริเวณจุดบัญชาการแนวหน้าในเมืองสำโรง จ.อุดรมีชัย และภาพการเจรจาระหว่างผู้บัญชาการทหารของกัมพูชาและไทยที่ด่านช่องสะงำ.-812(814).-สำนักข่าวไทย