เคียฟ 24 ก.พ.- รอยเตอร์มองว่า ยูเครนกำลังอยู่ในช่วงเปราะบางที่สุดนับตั้งแต่ถูกรัสเซียเปิดฉากรุกรานในวันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นสงครามนองเลือดที่สุดในยุโรปนับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
รอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษระบุว่า ประชากร 40 ล้านคนของประเทศอดีตบริวารสหภาพโซเวีตแห่งนี้สามารถต้านทานรัสเซียได้เหนือความคาดหมาย ไม่ถูกกองกำลังรัสเซียที่มีขนาดใหญ่กว่ายึดได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ หลังจากรถถังและกำลังพลรัสเซียมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟ อย่างไรก็ดี ในขณะที่สงครามย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ในวันนี้ ความช่วยเหลือของประชาคมโลกเริ่มชะลอตัวลง กระทบต่อปฏิบัติการรุกโต้กลับช่วงฤดูร้อนของยูเครนที่กำลังระส่ำระสาย ขณะที่รัสเซียกำลังเดินหน้ายึดครองดินแดน รัสเซียมีประชากรมากพอที่จะทดแทนทหารที่ล้มตายและมีงบประมาณกลาโหมขนาดใหญ่ แต่ยูเครนอยู่ในสภาพบ้านเมืองเสียหาย บ้านเรือนถูกทำลายบางส่วนหรือทั้งหมด 2 ล้านหลัง ประชาชนเกือบ 6 ล้านคนหนีออกนอกประเทศ ทหารเหนื่อยล้า เครื่องกระสุนร่อยหรอ และถูกรัสเซียระดมถล่มรายวันด้วยขีปนาวุธและโดรน
รอยเตอร์ชี้ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ สหรัฐอาจได้ประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะเปลี่ยนนโยบายที่มีต่อยูเครนและการทำสงครามกับรัสเซีย ขณะที่รัสเซียจะยังคงมีประธานาธิบดีคนเดิมคือ วลาดิเมียร์ ปูติน เพราะคาดกันว่าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 15-17 มีนาคมนี้ เขาจะกวาดชัยชนะถล่มทลายจากการทำสงครามยูเครน
ผลการศึกษาของธนาคารโลกชี้ว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจยูเครนอาจต้องใช้เงินเกือบ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 18 ล้านล้านบาท) ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียยังสามารถต้านทานมาตรการคว่ำบาตรที่มากเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัวได้ร้อยละ 3.6 ในปี 2566 แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ในรัสเซียบางคนเตือนว่า เป็นการขยายตัวเพราะการใช้จ่ายด้านสงคราม และเศรษฐกิจใกล้จะหยุดชะงักหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย.-814.-สำนักข่าวไทย