ลาปาซ 1 พ.ย.- โบลิเวียประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เพื่อประณามที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีนองเลือดในฉนวนกาซา หลังจากกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
เฟรดดี มามานี รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของโบลิเวียเผยในการแถลงข่าวว่า รัฐบาลโบลิเวียตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐอิสราเอล เพื่อแสดงการไม่ยอมรับและประณามการที่อิสราเอลกำลังดำเนินการโจมตีทางทหารในฉนวนซากาอย่างรุกรานและเกินกว่าเหตุ ขณะที่มาเรีย เนลา ปราดา รัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดีโบลิเวียประกาศในการแถลงข่าวเดียวกันว่า โบลิเวียกำลังจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา และเรียกร้องให้ยุติการโจมตีในฉนวนกาซาที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก และมีชาวปาเลสไตน์มากมายถูกบังคับพลัดถิ่น
โบลิเวียเป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกาที่ประกาศตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอลนับจากสงครามอิสราเอล-ฮามาสปะทุขึ้นล่าสุด หลังจากเคยตัดความสัมพันธ์ไปเพราะอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาหลายครั้งก่อนหน้านั้น และเพิ่งฟื้นความสัมพันธ์ในปี 2562 กลุ่มฮามาสยกย่องการตัดสินใจของโบลิเวียและเรียกร้องให้ชาติอาหรับที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับปกติกับอิสราเอลดำเนินรอยตามโบลิเวีย ด้านชิลีที่มีประชากรชาวปาเลสไตน์นอกประเทศอาหรับมากที่สุดในโลกได้เรียกเอกอัครราชทูตชิลีประจำอิสราเอลกลับประเทศเพื่อประท้วงการที่อิสราเอลละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากลอย่างไม่สามารถยอมรับได้ เช่นเดียวกับโคลอมเบียที่เรียกเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลกลับประเทศ ส่วนบราซิลในฐานะประธานหมุนเวียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้หยุดยิง โดยระบุว่าการที่กลุ่มฮามาสก่อการร้ายกับอิสราเอลไม่ได้หมายความอิสราเอลจะต้องสังหารผู้บริสุทธิ์กลับคืน.-สำนักข่าวไทย
