รามเล 10 ต.ค.- อาสาสมัครพลเรือนและทหารกองหนุนรวมตัวกันที่ฐานทัพอิสราเอลในเมืองรามเล ทางตอนกลางของอิสราเอล เพื่อแสดงความร่วมใจกันปกป้องประเทศที่ถูกกลุ่มฮามาสโจมตี หลังจากเกิดความแตกแยกทางการเมืองภายในประเทศมาร่วมปี
อิสราเอลเผยว่า ได้ระดมทหารกองหนุนมากถึง 300,000 นาย เพื่อร่วมปฏิบัติการซอร์ดส์ ออฟ ไอเอิร์น (Swords of Iron) ซึ่งอาจเป็นการบุกภาคพื้นดินเข้าไปในฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลปิดล้อมมานาน และอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มฮามาสมาตั้งแต่ปี 2550 รัฐบาลอิสราเอลแจ้งว่า กลุ่มฮามาสสังหารคนในอิสราเอลไม่ต่ำกว่า 800 คน มีคนได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,600 คน และถูกกลุ่มฮามาสจับตัวกลับไปกาซาประมาณ 150 คน ขณะที่ฮามาสแจ้งว่า ปฏิบัติการตอบโต้ของอิสราเอล ทำให้คนในกาซาเสียชีวิต 687 คน บาดเจ็บ 3,727 คน
ชายชาวอิสราเอล วัย 42 ปี ที่ประกอบอาชีพครู เผยว่า เดินทางมายังฐานทัพทันทีที่ถูกเรียกตัว บ้านของเขาที่อยู่ใกล้กับฉนวนกาซาถูกจรวดระดมยิงเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่ชายวัย 30 ปีเผยว่า กำลังพักผ่อนอยู่ทางตอนเหนือของประเทศในช่วงที่ถูกเรียกตัว แม้ไม่รู้ว่าจะต้องร่วมในกองทัพนานแค่ไหน แต่ก็ยินดีที่ได้มีโอกาสปกป้องประเทศ เขาทำหน้าที่สนับสนุนการส่งกำลังบำรุงให้ทหารและทหารกองหนุนมีความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดี
ส่วนทหารวัย 25 ปีที่อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บ หวังว่าจะได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้เปรียบเหมือนเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ของอิสราเอล ก่อนหน้านี้ชาวอิสราเอลมีความแตกแยก แต่ขณะนี้ทุกคนรวมใจกันต่อสู้ศัตรู ทหารนายนี้เป็นหนึ่งในผู้ประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายปฏิรูประบบตุลาการของรัฐบาลที่จำกัดอำนาจของศาลฎีกา เพราะเกรงว่าจะนำไปสู่การปกครองแบบเบ็ดเสร็จ การประท้วงเกิดขึ้นรายสัปดาห์ สร้างความแตกแยกภายในประเทศ ทหารกองหนุนบางคนขู่ว่าจะไม่รายงานตัว หากถูกเรียกเข้ากองทัพ.-สำนักข่าวไทย