แบกแดด 21 ก.ค. – ความตึงเครียดระหว่างอิรักและสวีเดนปะทุขึ้นอีกครั้งในวันพฤหัสบดีจากกรณีการประท้วงในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน ที่มีชายคนหนึ่งเหยียบลงบนคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งถือเป็นหลักคำสอนสูงสุดของศาสนาอิสลาม หลังจากเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนมีการเผาพระคัมภีร์ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ชาวมุสลิมทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ชาวอิรักหลายร้อยคนบุกเช้าไปเผาสถานทูตสวีเดนในกรุงแบกแดดในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากมีรายงานข่าวว่า ตำรวจสวีเดนอนุญาตให้มีการชุมนุมหน้าสถานทูตอิรักในกรุงสตอกโฮล์ม โดยอ้างหลักเสรีภาพในการแสดงความเห็น ซึ่งผู้ชุมนุมมีแผนที่จะเผาสำเนาพระคัมภีร์อัลกุรอานและธงชาติอิรัก รัฐบาลอิรักตำหนิการเผาสถานทูต แต่ก็ตอบโต้การประท้วงในสวีเดนด้วยการขับเอกอัครราชทูตสวีเดนออกจากอิรัก นอกจากนั้นยังประกาศตัดความสัมพันธ์และระงับใบอนุญาตดำเนินกิจการในอิรักของบริษัทอิรักส์สัน ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของสวีเดน
นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี ของอิรักได้แจ้งเอกอัครราชทูตสวีนเดนประจำกรุงแบกแดดให้เดินทางออกจากดินแดนอิรัก โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิรักกล่าวว่า การตัดสินใจขับนักการทูตสวีเดนในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่สวีเดนยอมอนุญาตซ้ำแล้วซ้ำอีกให้มีการเผาพระคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลามและยังปล่อยให้มีการเผาธงชาติอิรัก
สำหรับการประท้วงที่หน้าสถานทูตอิรักในสวีเดนเมื่อวานนี้นั้น ซันวาน โมมิกา ผู้อพยพชาวอิรักที่พำนักในสวีเดนวัย 37 ปีใช้เท้าเหยียบลงบนพระคัมภีร์อัลกุรอาน แต่ไม่ได้เผาพระคัมภีร์อย่างที่เขาทำในระหว่างการประท้วงครั้งก่อนเมื่อเดือนที่แล้วที่บริเวณด้านหน้ามัสยิดในกรุงสตอกโฮล์ม.-สำนักข่าวไทย