นิวยอร์ก 7 มิ.ย. – คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ของสหรัฐ ยื่นฟ้องคอยน์เบส (Coinbase) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของประเทศว่า ทำให้นักลงทุนตกอยู่ในความเสี่ยงจากการที่คอยน์เบสไม่จดทะเบียนเป็นสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์
ก.ล.ต.สหรัฐ กล่าวหาคอยน์เบสซึ่งมีผู้ใช้งาน 110 ล้านราย และมีสินทรัพย์ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 ล้านล้านบาท) นับถึงสิ้นปี 2565 ว่าทำรายได้มหาศาลจากการอำนวยความสะดวกอย่างผิดกฎหมายให้แก่การซื้อขายสินทรัพย์คริปโทฯ การที่คอยน์เบสไม่จดทะเบียนเป็นตลาดหลักทรัพย์ได้ทำให้นักลงทุนไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างสำคัญ เช่น การคุ้มครองจาก ก.ล.ต. การกำหนดให้ต้องเก็บข้อมูล การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
ด้านนายพอล กรูวัล ที่ปรึกษาทางกฎหมายของคอยน์เบส กล่าวว่า การที่ ก.ล.ต. อาศัยแต่วิธีการบังคับ ทั้งที่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลยังไม่มีระเบียบที่ชัดเจน กำลังทำลายความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และบริษัทอย่างคอยน์เบสที่ได้แสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามระเบียบ เขาเรียกร้องระหว่างชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาในวันเดียวกันว่า จะต้องมีกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการพัฒนาอย่างโปร่งใสภายใต้ระเบียบที่เป็นธรรมโดยไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
ก.ล.ต. ยื่นฟ้องคอยน์เบสเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ หลังจากเมื่อวันจันทร์ยื่นฟ้องไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ อีกแห่งและนายจ้าว ฉางเฝิง ผู้ก่อตั้งชาวแคนาดาที่เกิดในจีน วัย 46 ปี ว่าดำเนินเครือข่ายหลอกลวงอย่างกว้างขวาง และหลบเลี่ยงกฎหมายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ก.ล.ต. ได้ร้องขอศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันอังคารให้อายัดทรัพย์สินของไบแนนซ์และนายจ้าวด้วย ปัจจุบันสหรัฐยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายคริปโทฯ แม้ว่าเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ รายใหญ่อีกแห่งหนึ่งล้มละลายไปเมื่อ 6 เดือนก่อน ขณะที่การซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ หรือซีเอฟทีซี (CFTC).-สำนักข่าวไทย