ปักกิ่ง 7 มิ.ย.- สื่อทางการจีนรายงานว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนพฤษภาคมลดลง หลังจากขยายตัวมา 2 เดือนติดต่อกัน สะท้อนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด เริ่มชะลอตัวลง
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ยอดการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศในเดือนพฤษภาคมปีนี้ลดลงร้อยละ 7.5 ต่อปี และลดลงร้อยละ 8.5 ต่อเดือน เป็นการลดลงครั้งแรกหลังจากยอดส่งออกขยายตัวติดต่อกัน 2 เดือนในเดือนมีนาคมและเมษายน ขณะที่ยอดการนำเข้าในเดือนพฤษภาคมลดลงร้อยละ 4.5 ต่อปี ตัวเลขดังกล่าวสวนทางอย่างยิ่งกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ยอดส่งออกและยอดนำเข้าของจีนในเดือนพฤษภาคมจะหดตัวร้อยละ 1.8 และร้อยละ 8.0 ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้ยอดการส่งออกของจีนลดลงติดต่อกัน 5 เดือนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากการผลิตในโรงงานและการขนส่งสินค้าตามท่าเรือหยุดชะงักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ต่อมาทางการได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว ทำให้ยอดการส่งออกขยายตัวในเดือนมีนาคมและเมษายน แต่การฟื้นตัวเริ่มชะลอตัวลงเพราะปัญหาหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคในจีนลดลง ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อสูงทั่วโลกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐส่งผลให้ความต้องการสินค้าจีนลดลง.-สำนักข่าวไทย