เบอร์ลิน 16 เม.ย. – เยอรมนีปิดสวิตช์เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่องสุดท้ายเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการออกจากการใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการและหลังจากนี้ต้องหาแนวทางในการลดและเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและยังต้องจัดการกับวิกฤตพลังงานที่เป็นผลมาจากสงครามในยูเครน
ในขณะที่หลายประเทศเพิ่มการลงทุนในเรื่องพลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เยอรมนีกลับปิดฉากยุคโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เร็วกว่ากำหนด บริษัทพลังงานอาร์ดับเบิลยูอี กล่าวในแถลงการณ์ว่า ยุคสมัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สิ้นสุดลงแล้ว อาร์ดับเบิลยูอี ออกแถลงการณ์หลังช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมายืนยันว่า ได้ตัดสายส่งไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่องสุดท้ายจากระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศแล้ว
เยอรมนีเริ่มตั้งเป้าหมายเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 2002 แต่การค่อย ๆ เปลี่ยนถ่ายและการยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้าเริ่มผลักดันให้เร็วขึ้นในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ในปี 2011 หลังจากเกิดภัยพิบัติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ในญี่ปุ่น
การยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ซึ่งเป็นผลมาจากความกลัวที่ยังคงมีอยู่จากความขัดแย้งของสงครามเย็นและภัยพิบัตินิวเคลียร์ เช่น กรณีโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ในยูเครน สเตฟฟี ลัมเก รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ความเสี่ยงของพลังงานนิวเคลียร์เป็นเรื่องที่จัดการไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
การชุมนุมต่อต้านนิวเคลียร์รวมตัวกันตามถนนในหลายเมืองในเยอรมนีเพื่อรำลึกถึงการปิดตัวของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กลุ่มกรีนพีซ ซึ่งเป็นแกนหลักในการต่อต้านเรื่องนี้ จัดงานฉลองที่บริเวณประตูบรันเดนเบิร์ก เกต ในกรุงเบอร์ลิน.-สำนักข่าวไทย