TNA News-Now-Next: ระเบิดนิวเคลียร์ บทเรียน 80 ปีที่โลกรู้แต่ไม่เรียน

Hiroshima Dome

ฮิโรชิมะ 6 ส.ค.- วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน โลกได้เห็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ขณะนั้นเรียกว่าระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรกที่เมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายแบบทำลายล้าง คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่ดูเหมือนว่า บทเรียนนี้ไม่ได้ทำให้หลายประเทศหวั่นเกรงแต่อย่างใด ซ้ำยังแข่งขันกันสั่งสมและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ท้าทายกฏระเบียบโลกที่เป็นเหมือนเสือกระดาษ


อาวุธสงครามครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน

ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมนของสหรัฐได้สั่งให้นำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิ โจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 2488 ด้วยระเบิดชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) น้ำหนัก 4,400 กิโลกรัม แรงระเบิด 13-16 กิโลตัน และระเบิดชื่อแฟตบอย (Fat Boy) น้ำหนัก 4,670 กิโลกรัม แรงระเบิด 21 กิโลตัน ข้อมูลจากเว็บไซต์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์หรือไอแคน (ICAN) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2560 ระบุว่า นับจนถึงสิ้นปี 2488 เมืองฮิโรชิมะมีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตจากรังสีนิวเคลียร์ ส่วนเมืองนางาซากิมีผู้เสียชีวิตราว 74,000 คน


สงครามเย็นและสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด สิ่งที่ติดตามมา คือ สงครามเย็น เป็นช่วงเวลาที่ภูมิรัฐศาสตร์โลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว ระหว่างขั้วสหรัฐกับขั้วสหภาพโซเวียต ในช่วงนั้นต่างฝ่ายต่างสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ จนมาถึงจุดที่มีการเรียกร้องให้เปิดการเจรจาเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ผลการเจรจาที่ดำเนินมาร่วม 3 ปี นำมาซึ่งการลงนามสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือเอ็นพีที (The Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons: NPT) ในปี 2511 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2513 และมีการต่ออายุในอีก 25 ปีให้เป็นสนธิสัญญาที่ไม่มีวันหมดอายุ แต่จะมีการทบทวนทุก 5 ปี

Signing of NPT in 1968
เครดิตภาพ : Ministry of Foreign Affairs of Russia

ทั้งนี้นับจนถึงปี 2559 มีประเทศต่าง ๆ ลงนามเป็นภาคีเอ็นพีทีรวมทั้งหมด 191 ประเทศ และมี 4 ประเทศที่ไม่ยอมรับเอ็นพีที


“รัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์” ตามเอ็นพีที

สนธิสัญญานี้กำหนดให้ประเทศที่มีและทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2510 เป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ (nuclear-weapon states) ได้แก่ สหรัฐ สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส จีน ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เท่ากับว่าเอ็นพีทียอมรับให้ประเทศหล่านี้สามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ ขณะที่รัฐภาคีอื่น ๆ ให้คำมั่นว่า จะใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติเท่านั้น ทั้งนี้รัฐภาคีทุกรัฐรับปากว่า จะเดินหน้าเจรจาอย่างจริงใจเรื่องมาตรการที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์

ส่วนประเทศที่เชื่อว่าครอบครองนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้เป็นภาคีเอ็นพีทีปัจจุบัน มี 4 ประเทศประกอบด้วยอินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล และเกาหลีเหนือ ซึ่งเคยเป็นภาคีเอ็นพีทีแต่ถอนตัวออกมาในปี 2546 และทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในอีก 3 ปีต่อมา

ไม่เพียงไม่ปลด แต่กลับเพิ่มจำนวน

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ออกรายงานประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนปีนี้ ประเมินสถานการณ์ประจำปีของการมีอาวุธ การปลดอาวุธ และความมั่นคงระหว่างประเทศและพบสิ่งที่น่ากังวลว่า โลกมีความเสี่ยงเรื่องนิวเคลียร์เพิ่มสูงขึ้น เพราะมีการแข่งขันการสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่อย่างน่าอันตรายในช่วงเวลาที่ระบบการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในสภาพที่อ่อนปวกเปียกอย่างยิ่ง

SIPRI Yearbook 2025
เครดิตภาพ : SIPRI

ทั้งนี้นับตั้งแต่สงครามเย็นยุติลงพร้อมกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 2532 สหรัฐและรัสเซียต่างทยอยปลดหัวรบนิวเคลียร์ปลดระวางในจำนวนที่มากกว่าจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ติดตั้งใหม่ ส่งผลให้จำนวนอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกลดลงปีต่อปี อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญของ SIPRI มองว่า ความร่วมมือนี้ใกล้จะถึงจุดสิ้นลง เพราะเห็นแนวโน้มชัดเจนว่า มีการสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น มีการข่มขู่เรื่องใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น และมีการเพิกเฉยต่อข้อตกลงควบคุมอาวุธมากขึ้น

รายงานประเมินว่า นับจนถึงเดือนมกราคมปีนี้  ทั่วโลกมีหัวรบนิวเคลียร์รวมทั้งหมด 12,241 ลูก ในจำนวนนี้ 9,614 ลูก อยู่ในคลังกองทัพเพื่อเตรียมพร้อมใช้งาน เป็นข้อมูลที่ประเมินจาก 9 ประเทศประกอบด้วยรัสเซีย 5,459 ลูก, สหรัฐ 5,177 ลูก, จีน 600 ลูก, ฝรั่งเศส 290 ลูก, สหราชอาณาจักร 225 ลูก, อินเดีย 180 ลูก, ปากีสถาน 170 ลูก, อิสราเอล 90 ลูก และเกาหลีเหนือ 50 ลูก 

ไม่เพียงเพิ่มจำนวน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพ

สหรัฐและรัสเซียมีข้อตกลงทวิภาคีปี 2553 เป็นสนธิสัญญาว่าด้วยมาตรการเดินหน้าลดและจำกัดอาวุธโจมตีเชิงยุทธศาสตร์หรือนิวสตาร์ท (New START) ซึ่งจะหมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 หากไม่มีการต่ออายุก็มีความเป็นไปได้ว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์จะเพิ่มขึ้น

รัสเซียซึ่งประสบปัญหาทางการเงินได้ปรับปรุงกองกำลังเชิงยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้ขีปนาวุธแต่ละลูกสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้มากขึ้น ขณะที่สหรัฐประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน แต่ยังคงมีการผลักดันให้เดินหน้าปรับปรุงต่อไป เพื่อคานอำนาจกับจีนที่กำลังขยายกองกำลังนิวเคลียร์เร็วที่สุดในโลก จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ใหม่ราว 100 ลูกต่อปีนับตั้งแต่ปี 2566 และมีหรือใกล้จะมีขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปหรือไอซีบีเอ็ม (ICBM) ใหม่ประมาณ 350 ลูก อย่างไรก็ดี ถึงแม้จีนจะเร่งผลิตหัวรบนิวเคลียร์อย่างเต็มกำลังเพื่อเพิ่มจำนวนให้ได้ถึง 1,500 ลูกภายในปี 2578 ก็ยังคงมีไม่ถึง 1 ใน 3 ของรัสเซียหรือของสหรัฐ

ฟากรัฐนิวเคลียร์ในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร รัฐบาลพรรคแรงงานที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ประกาศเดินหน้าต่อเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี (SSBN) ลำใหม่จำนวน 4 ลำ เพื่อคงมาตรการป้องปรามทางทะเลและปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ในอนาคต เช่นเดียวกับฝรั่งเศสที่เดินหน้าโครงการยกระดับ SSBN รุ่นที่ 3 และขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศ รวมทั้งปรับปรุงขีปนาวุธทิ้งตัวด้วยหัวรบนิวเคลียร์รุ่นใหม่ 

ส่วนที่อนุภูมิภาคเอเชียใต้ เชื่อกันว่าขีปนาวุธรุ่นใหม่ของอินเดียสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายลูก ขณะที่ปากีสถานมีการสะสมวัสดุนิวคลียร์เพิ่มมากขึ้นและปรับปรุงระบบยิงขีปนาวุธแบบใหม่

North Korean leader and daughter inspect new 5,000-tonne warship
ผู้นำเกาหลีเหนือและบุตรสาว

ด้านเกาหลีเหนือประกาศให้โครงการนิวเคลียร์ทางทหารเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ เกาหลีใต้ที่ยังคงเป็นคู่สงครามกับเกาหลีเหนือเนื่องจากยังไม่มีข้อตกลงสันติภาพหลังสิ้นสุดสงครามเกาหลีปี 2496 เตือนเมื่อปีก่อนว่า เกาหลีเหนืออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี และยิ่งน่าหวาดหวั่นมากขึ้นไปอีกเมื่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศช่วงปลายปีให้ขยายโครงการนิวเคลียร์อย่างไม่มีขีดจำกัด

อิสราเอลที่ไม่ยอมรับต่อสาธารณะว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ทดสอบระบบขับเคลื่อนขีปนาวุธที่อาจเชื่อมโยงกับขีปนาวุธทิ้งตัวที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ในตระกูลเจริโค และดูเหมือนว่ากำลังปรับปรุงเตาปฏิกรณ์พลูโตเนียมที่เมืองดิโมนา กลางทะเลทรายเนเกฟ

“ว่าที่รัฐนิวเคลียร์” ในตะวันออกกลาง

ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่เกิดความตึงเครียดในหลายจุด และเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ความตึงเครียดแต่ละครั้งสร้างความกังวลใจให้แก่ประชาคมโลก แม้ปัจจุบันภูมิภาคนี้ยังไม่มีรัฐนิวเคลียร์อย่างชัดเจน แต่สปอตไลต์ส่องไปที่อิหร่าน ซึ่งยืนยันว่าดำเนินโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติตามที่เป็นภาคีของเอ็นพีที และอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างเช้มงวดของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA)

centrifuges in Iran's Natanz nuclear plant
เครื่องหมุนเหวี่ยงสำหรับเสริมสมรรถยะยูเรเนียมของอิหร่าน

มหาอำนาจตะวันตกระบุว่า การที่อิหร่านกำลังเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมให้มีความบริสุทธ์ถึง 60% ผิดวิสัยของการใช้ในทางพลเรือน เพราะเป็นเกรดความบริสุทธ์ใกล้กับเกรด 90% ที่ใช้ทำอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลเรื่องศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านทำให้ซาอุดีอาระเบียประกาศว่า หากอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ซาอุดีอาระเบียก็จะมีเช่นกัน สร้างความวิตกเรื่องจะเกิดการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นในภูมิภาคนี้

Final Thoughts: จากระเบิดนิวเคลียร์สู่อาวุธนิวเคลียร์ หรือ 80 ปีที่ผ่านมาไร้ความหมาย

ยาสุโยะ ยามาเนะ คุณตาชาวเมืองฮิโรชิมะมีอายุเพียง 1 เดือน ในวันที่ระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งและทำลายล้างเมืองฮิโรชิมะเป็นลูกแรกของโลกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 สร้างบันทึกความโหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

Yasuyo Yamane survivor from Hiroshima atomic bomb
ยาสุโยะ ยามาเนะ ผู้รอดชีวิต

วันนี้ในวัย 80 ปี คุณตายามาเนะได้ร่วมกิจกรรมเรียกร้องสันติภาพที่ริมแม่น้ำโมโตยาสุ ตรงข้ามกับอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะหรือโดมปรมาณู ซึ่งเป็นซากอาคารที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ความปรารถนาของชายวัยชราต้องการให้โลกที่ยังคงมีการฆ่าล้างผู้บริสุทธิ์ได้มีสันติสุขเสียที

คุณตาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า ฮิบะกุชะ (Hibakusha) ซึ่งเหลือไม่ถึง 1 แสนคน และมีจำนวนลดลงทุกปี ประสบการณ์ตรงที่มีค่าของพวกเขาที่จะถ่ายทอดให้กับมนุษยชาติจึงลดน้อยลงทุกปี ขณะที่มหาอำนาจยังนำโลกเข้าสู่ความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะปลดนิวเคลียร์ตามปณิธานแห่งสันติภาพของพวกเขา-814.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย