TNA News-Now-Next: ระเบิดนิวเคลียร์ บทเรียน 80 ปีที่โลกรู้แต่ไม่เรียน

Hiroshima Dome

ฮิโรชิมะ 6 ส.ค.- วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน โลกได้เห็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ขณะนั้นเรียกว่าระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรกที่เมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายแบบทำลายล้าง คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่ดูเหมือนว่า บทเรียนนี้ไม่ได้ทำให้หลายประเทศหวั่นเกรงแต่อย่างใด ซ้ำยังแข่งขันกันสั่งสมและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ท้าทายกฏระเบียบโลกที่เป็นเหมือนเสือกระดาษ


อาวุธสงครามครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน

ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมนของสหรัฐได้สั่งให้นำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิ โจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 2488 ด้วยระเบิดชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) น้ำหนัก 4,400 กิโลกรัม แรงระเบิด 13-16 กิโลตัน และระเบิดชื่อแฟตบอย (Fat Boy) น้ำหนัก 4,670 กิโลกรัม แรงระเบิด 21 กิโลตัน ข้อมูลจากเว็บไซต์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์หรือไอแคน (ICAN) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2560 ระบุว่า นับจนถึงสิ้นปี 2488 เมืองฮิโรชิมะมีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตจากรังสีนิวเคลียร์ ส่วนเมืองนางาซากิมีผู้เสียชีวิตราว 74,000 คน


สงครามเย็นและสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด สิ่งที่ติดตามมา คือ สงครามเย็น เป็นช่วงเวลาที่ภูมิรัฐศาสตร์โลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว ระหว่างขั้วสหรัฐกับขั้วสหภาพโซเวียต ในช่วงนั้นต่างฝ่ายต่างสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ จนมาถึงจุดที่มีการเรียกร้องให้เปิดการเจรจาเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ผลการเจรจาที่ดำเนินมาร่วม 3 ปี นำมาซึ่งการลงนามสนธิสัญญาห้ามแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หรือเอ็นพีที (The Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons: NPT) ในปี 2511 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2513 และมีการต่ออายุในอีก 25 ปีให้เป็นสนธิสัญญาที่ไม่มีวันหมดอายุ แต่จะมีการทบทวนทุก 5 ปี

Signing of NPT in 1968
เครดิตภาพ : Ministry of Foreign Affairs of Russia

ทั้งนี้นับจนถึงปี 2559 มีประเทศต่าง ๆ ลงนามเป็นภาคีเอ็นพีทีรวมทั้งหมด 191 ประเทศ และมี 4 ประเทศที่ไม่ยอมรับเอ็นพีที


“รัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์” ตามเอ็นพีที

สนธิสัญญานี้กำหนดให้ประเทศที่มีและทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2510 เป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ (nuclear-weapon states) ได้แก่ สหรัฐ สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส จีน ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เท่ากับว่าเอ็นพีทียอมรับให้ประเทศหล่านี้สามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ ขณะที่รัฐภาคีอื่น ๆ ให้คำมั่นว่า จะใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติเท่านั้น ทั้งนี้รัฐภาคีทุกรัฐรับปากว่า จะเดินหน้าเจรจาอย่างจริงใจเรื่องมาตรการที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์

ส่วนประเทศที่เชื่อว่าครอบครองนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้เป็นภาคีเอ็นพีทีปัจจุบัน มี 4 ประเทศประกอบด้วยอินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล และเกาหลีเหนือ ซึ่งเคยเป็นภาคีเอ็นพีทีแต่ถอนตัวออกมาในปี 2546 และทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในอีก 3 ปีต่อมา

ไม่เพียงไม่ปลด แต่กลับเพิ่มจำนวน

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ออกรายงานประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนปีนี้ ประเมินสถานการณ์ประจำปีของการมีอาวุธ การปลดอาวุธ และความมั่นคงระหว่างประเทศและพบสิ่งที่น่ากังวลว่า โลกมีความเสี่ยงเรื่องนิวเคลียร์เพิ่มสูงขึ้น เพราะมีการแข่งขันการสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่อย่างน่าอันตรายในช่วงเวลาที่ระบบการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในสภาพที่อ่อนปวกเปียกอย่างยิ่ง

SIPRI Yearbook 2025
เครดิตภาพ : SIPRI

ทั้งนี้นับตั้งแต่สงครามเย็นยุติลงพร้อมกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 2532 สหรัฐและรัสเซียต่างทยอยปลดหัวรบนิวเคลียร์ปลดระวางในจำนวนที่มากกว่าจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ติดตั้งใหม่ ส่งผลให้จำนวนอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกลดลงปีต่อปี อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญของ SIPRI มองว่า ความร่วมมือนี้ใกล้จะถึงจุดสิ้นลง เพราะเห็นแนวโน้มชัดเจนว่า มีการสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น มีการข่มขู่เรื่องใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น และมีการเพิกเฉยต่อข้อตกลงควบคุมอาวุธมากขึ้น

รายงานประเมินว่า นับจนถึงเดือนมกราคมปีนี้  ทั่วโลกมีหัวรบนิวเคลียร์รวมทั้งหมด 12,241 ลูก ในจำนวนนี้ 9,614 ลูก อยู่ในคลังกองทัพเพื่อเตรียมพร้อมใช้งาน เป็นข้อมูลที่ประเมินจาก 9 ประเทศประกอบด้วยรัสเซีย 5,459 ลูก, สหรัฐ 5,177 ลูก, จีน 600 ลูก, ฝรั่งเศส 290 ลูก, สหราชอาณาจักร 225 ลูก, อินเดีย 180 ลูก, ปากีสถาน 170 ลูก, อิสราเอล 90 ลูก และเกาหลีเหนือ 50 ลูก 

ไม่เพียงเพิ่มจำนวน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพ

สหรัฐและรัสเซียมีข้อตกลงทวิภาคีปี 2553 เป็นสนธิสัญญาว่าด้วยมาตรการเดินหน้าลดและจำกัดอาวุธโจมตีเชิงยุทธศาสตร์หรือนิวสตาร์ท (New START) ซึ่งจะหมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 หากไม่มีการต่ออายุก็มีความเป็นไปได้ว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์จะเพิ่มขึ้น

รัสเซียซึ่งประสบปัญหาทางการเงินได้ปรับปรุงกองกำลังเชิงยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้ขีปนาวุธแต่ละลูกสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้มากขึ้น ขณะที่สหรัฐประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน แต่ยังคงมีการผลักดันให้เดินหน้าปรับปรุงต่อไป เพื่อคานอำนาจกับจีนที่กำลังขยายกองกำลังนิวเคลียร์เร็วที่สุดในโลก จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ใหม่ราว 100 ลูกต่อปีนับตั้งแต่ปี 2566 และมีหรือใกล้จะมีขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปหรือไอซีบีเอ็ม (ICBM) ใหม่ประมาณ 350 ลูก อย่างไรก็ดี ถึงแม้จีนจะเร่งผลิตหัวรบนิวเคลียร์อย่างเต็มกำลังเพื่อเพิ่มจำนวนให้ได้ถึง 1,500 ลูกภายในปี 2578 ก็ยังคงมีไม่ถึง 1 ใน 3 ของรัสเซียหรือของสหรัฐ

ฟากรัฐนิวเคลียร์ในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร รัฐบาลพรรคแรงงานที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ประกาศเดินหน้าต่อเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี (SSBN) ลำใหม่จำนวน 4 ลำ เพื่อคงมาตรการป้องปรามทางทะเลและปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ในอนาคต เช่นเดียวกับฝรั่งเศสที่เดินหน้าโครงการยกระดับ SSBN รุ่นที่ 3 และขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศ รวมทั้งปรับปรุงขีปนาวุธทิ้งตัวด้วยหัวรบนิวเคลียร์รุ่นใหม่ 

ส่วนที่อนุภูมิภาคเอเชียใต้ เชื่อกันว่าขีปนาวุธรุ่นใหม่ของอินเดียสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายลูก ขณะที่ปากีสถานมีการสะสมวัสดุนิวคลียร์เพิ่มมากขึ้นและปรับปรุงระบบยิงขีปนาวุธแบบใหม่

North Korean leader and daughter inspect new 5,000-tonne warship
ผู้นำเกาหลีเหนือและบุตรสาว

ด้านเกาหลีเหนือประกาศให้โครงการนิวเคลียร์ทางทหารเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ เกาหลีใต้ที่ยังคงเป็นคู่สงครามกับเกาหลีเหนือเนื่องจากยังไม่มีข้อตกลงสันติภาพหลังสิ้นสุดสงครามเกาหลีปี 2496 เตือนเมื่อปีก่อนว่า เกาหลีเหนืออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี และยิ่งน่าหวาดหวั่นมากขึ้นไปอีกเมื่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศช่วงปลายปีให้ขยายโครงการนิวเคลียร์อย่างไม่มีขีดจำกัด

อิสราเอลที่ไม่ยอมรับต่อสาธารณะว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ทดสอบระบบขับเคลื่อนขีปนาวุธที่อาจเชื่อมโยงกับขีปนาวุธทิ้งตัวที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ในตระกูลเจริโค และดูเหมือนว่ากำลังปรับปรุงเตาปฏิกรณ์พลูโตเนียมที่เมืองดิโมนา กลางทะเลทรายเนเกฟ

“ว่าที่รัฐนิวเคลียร์” ในตะวันออกกลาง

ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่เกิดความตึงเครียดในหลายจุด และเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ความตึงเครียดแต่ละครั้งสร้างความกังวลใจให้แก่ประชาคมโลก แม้ปัจจุบันภูมิภาคนี้ยังไม่มีรัฐนิวเคลียร์อย่างชัดเจน แต่สปอตไลต์ส่องไปที่อิหร่าน ซึ่งยืนยันว่าดำเนินโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติตามที่เป็นภาคีของเอ็นพีที และอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างเช้มงวดของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA)

centrifuges in Iran's Natanz nuclear plant
เครื่องหมุนเหวี่ยงสำหรับเสริมสมรรถยะยูเรเนียมของอิหร่าน

มหาอำนาจตะวันตกระบุว่า การที่อิหร่านกำลังเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมให้มีความบริสุทธ์ถึง 60% ผิดวิสัยของการใช้ในทางพลเรือน เพราะเป็นเกรดความบริสุทธ์ใกล้กับเกรด 90% ที่ใช้ทำอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลเรื่องศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านทำให้ซาอุดีอาระเบียประกาศว่า หากอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ซาอุดีอาระเบียก็จะมีเช่นกัน สร้างความวิตกเรื่องจะเกิดการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นในภูมิภาคนี้

Final Thoughts: จากระเบิดนิวเคลียร์สู่อาวุธนิวเคลียร์ หรือ 80 ปีที่ผ่านมาไร้ความหมาย

ยาสุโยะ ยามาเนะ คุณตาชาวเมืองฮิโรชิมะมีอายุเพียง 1 เดือน ในวันที่ระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งและทำลายล้างเมืองฮิโรชิมะเป็นลูกแรกของโลกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 สร้างบันทึกความโหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

Yasuyo Yamane survivor from Hiroshima atomic bomb
ยาสุโยะ ยามาเนะ ผู้รอดชีวิต

วันนี้ในวัย 80 ปี คุณตายามาเนะได้ร่วมกิจกรรมเรียกร้องสันติภาพที่ริมแม่น้ำโมโตยาสุ ตรงข้ามกับอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะหรือโดมปรมาณู ซึ่งเป็นซากอาคารที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ความปรารถนาของชายวัยชราต้องการให้โลกที่ยังคงมีการฆ่าล้างผู้บริสุทธิ์ได้มีสันติสุขเสียที

คุณตาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า ฮิบะกุชะ (Hibakusha) ซึ่งเหลือไม่ถึง 1 แสนคน และมีจำนวนลดลงทุกปี ประสบการณ์ตรงที่มีค่าของพวกเขาที่จะถ่ายทอดให้กับมนุษยชาติจึงลดน้อยลงทุกปี ขณะที่มหาอำนาจยังนำโลกเข้าสู่ความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะปลดนิวเคลียร์ตามปณิธานแห่งสันติภาพของพวกเขา-814.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย