ผู้นำศรีลังกาหารือเรื่องผู้ขอลี้ภัยในออสเตรเลีย

แคนเบอร์รา 25 พ.ค. – ประธานาธิบดีศรีลังกาได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โดยมีเรื่องผู้ลักลอบอพยพเข้าประเทศเป็นประเด็นสำคัญ


ประธานาธิบดีไมตรีพาลา สิริเสนา นับเป็นผู้นำศรีลังกาคนแรกที่เดินทางเยือนออสเตรเลีย ซึ่งการเยือนกรุงแคนเบอร์ราและนครซิดนีย์ครั้งนี้ยังมีขึ้นในโอกาสศรีลังกาและออสเตรเลียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 70 ปี  ภายหลังจากพบกับนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลของออสเตรเลียในวันนี้ ผู้นำศรีลังกายังมีกำหนดหารือกับนายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและป้องกันชายแดนออสเตรเลีย ชาวศรีลังกา อิหร่าน และอัฟกานิสถานเป็นกลุ่มผู้อพยพรายใหญ่ที่สุดในจำนวนผู้ขอลี้ภัยกว่า 2,000 คนที่เดินทางมายังเกาะนาอูรูและปาปัวนิวกินีทางออสเตรเลีย แต่ไม่มีผู้ขอลี้ภัยชาวศรีลังกาอพยพทางเรือมายังออสเตรเลียเลยนับตั้งแต่ปี 2556 .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน