อิสตันบูล 11 ก.พ. – อพาร์ตเมนต์ หรือ อาคารชุดสำหรับพักอาศัยหลายแห่งในตุรกี ทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ ที่บางแห่งเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อ 6 เดือนก่อน กลายสภาพเป็นเศษซากคอนกรีตหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามเรื่องมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารเหล่านี้
ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายทั้งหมดจากแผ่นดินไหวขนาด 7.8 และอาฟเตอร์ช็อกอีกนับไม่ถ้วนในตุรกีและซีเรีย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตใกล้ 24,000 รายแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้เกิดความสงสัยว่า เหตุใดตุรกี ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้ว ถึงมีอาคารที่ก่อสร้างแบบขาดคุณภาพ ทำให้อาคารพังราบเป็นหน้ากลองแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า ตุรกีมีระเบียบเพื่อป้องกันเหตุภัยพิบัติ แต่บรรดาบริษัทก่อสร้างกลับไม่เคร่งครัดเรื่องระเบียบเหล่านี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า อาคาร 12,141 หลัง ในตุรกีได้รับความเสียหายรุนแรงหรือพังถล่มทั้งหลัง นักวิชาการของมหาวิทยาลัยโบกาซิซี ในนครอิสตันบูล กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดความเสียหายได้ถึงขนาดนี้ ทำให้โอกาสในการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารมีน้อยเต็มที ที่ปรึกษาประจำมหาวิทยาลัยเทคนิคอิสตันบูลกล่าวว่า สาเหตุมักจะมาจากคอนกรีตมีคุณภาพต่ำ บางครั้งผสมน้ำและกรวดมากเกินไป แต่คอนกรีตน้อยเกินไป นอกจากนั้น เหล็กเส้นที่นำมาใช้มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้อาคารขาดความแข็งแรง เขายังกล่าวโทษว่า วิศวกรและสถาปนิก มีคุณภาพการศึกษาต่ำ สาเหตุที่มีผลกระทบยังรวมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเรื่องการก่อสร้าง การตรวจสอบที่หละหลวม.-สำนักข่าวไทย
