ยุโรป 14 พ.ค.-ตำรวจยุโรป หรือยูโรโพล เร่งติดตามตัวแฮกเกอร์ที่ปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ “WannaCry” ที่ออกอาละวาดคอมพิวเตอร์ใน 99 ประเทศทั่วโลกเมื่อ 2 วันก่อน
ตำรวจยุโรป หรือยูโรโพล เผยว่า กรณีกลุ่มแฮกเกอร์ “เดอะ แชโดว์ โบรกเกอร์ส” ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ชื่อ “วอนนาคราย” (WannaCry) ด้วยเทคนิคที่ชื่อว่า แรนซัมแวร์ เข้าไปล็อกไฟล์งานต่างๆ ของผู้ใช้ให้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ และเรียกเงินค่าไถ่เป็นเงินบิทคอยน์ใน 99 ประเทศทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเป็นวงกว้างเท่านี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องอาศัยการสืบสวนสอบสวนที่ซับซ้อนและได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบเพื่อระบุตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ
เหตุโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานและบริษัทต่างๆ กว่า 57,000 ครั้งใน 99 ประเทศ รัสเซีย ยูเครน และไต้หวันเป็น 3 ประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายมากที่สุด สร้างความโกลาหลให้หน่วยงานต่างๆ ส่วนอังกฤษก็ถูกโจมตีเช่นกัน ส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ ต้องยกเลิกการผ่าตัดคนไข้และยกเลิกกำหนดการพบแพทย์ของคนไข้จำนวนมาก แต่ล่าสุดสามารถกู้ระบบกลับมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์รายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อบัญชีทวิตเตอร์ว่า @Malware TechBlog สามารถค้นพบวิธีสกัดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ดังกล่าวได้โดยบังเอิญ ด้วยการเสียเงินเพียง 10.69 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 371 บาท จดทะเบียนชื่อโดเมนที่มัลแวร์เรียกค่าไถ่นี้ใช้อยู่ เพราะปกติแล้วมัลแวร์จะใช้ชื่อโดเมนที่ไม่ได้จดทะเบียน ปรากฏว่าสามารถยับยั้งไม่ให้มัลแวร์แพร่ระบาดต่อไปได้ อย่างไรก็ดี วิธีนี้ไม่ได้ช่วยคอมพิวเตอร์ที่ถูกโจมตีไปแล้ว และแฮกเกอร์ก็คงจะเปลี่ยนรหัสและพยายามหาทางเจาะระบบต่อไป ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรอัพเดตระบบโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย รวมถึงไม่ควรเปิดอีเมลแปลกๆ ที่ส่งมาถึง.-สำนักข่าวไทย
