กรุงเทพฯ 7 พ.ค.- ตำรวจ สน.ท่าข้าม จับกุม “สิบเอก” ก่อเหตุแหกคุกทหาร แถมหลอกเช่ารถหรูไปจำนำเต็นท์ อีกทั้งยังมีคดีหลอกเพื่อนร่วมลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท
จากกรณี ส.อ.เจษฎา อายุ 26 ปี นายทหารค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก่อเหตุหลบหนีออกจากค่าย ระหว่างถูกลงทัณฑ์ขัง เนื่องจากกระทำความผิดฐานฉ้อโกงเงินสวัสดิการ โดยมีพ่อช่วยเหลือในการหลบหนี เมื่อวันที่ 15 เมษายน กระทั่งกลุ่มนายทหารชั้นประทวนจากหลายสังกัดเข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ปอศ.หลังถูกหลอกให้ลงทุน อ้างได้รับผลตอบแทนสูงสูญเงินกว่า 500,000 บาท และมีผู้เสียหายรายอื่นอีก รวมมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวาน (6 พ.ค.) ตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย ส.อ.เจษฎา หรือ “โบ๊ท” อายุ 26 ปี และนายสิริบูรณ์ หรือ “วี” อายุ 24 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความ สน.ท่าข้าม ว่าโพสต์ปล่อยเช่ารถหรูผ่านออนไลน์ จนเมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายสิริบูรณ์ หรือ “วี” ได้ติดต่อเช่ารถหรูยี่ห้อปอร์เช่ รุ่น 718 Boxster สีเทา มูลค่ารถ 7 ล้านบาท โดยตกลงราคาเช่ารายวัน วันละ 29,000 บาทเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. ถึงวันที่ 5 พ.ค. รวมราคาเช่า 87,000 บาท แต่เมื่อถึงวันที่ผู้เช่าต้องมอบรถคืนพบว่าสัญญาณจีพีเอสที่ติดอยู่กับตัวรถถูกตัดไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์
หลังจากนั้นผู้เสียหายทราบว่า นายสิริบูรณ์ ได้ติดต่อขอเช่ารถ BMW Z4 อีกคันของบริษัทในเครือ จึงวางแผนนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว ก่อนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่จับกุม จากนั้นได้ให้นายสิริบูรณ์ ติดต่อ ส.อ.เจษฎา พร้อมนัดพบกันที่ร้านอาหารย่านเอกมัยเพื่อขยายผลก่อนจับกุมได้อีกคน และส่งตัวไปที่ สน.ท่าข้าม สอบปากคำ พร้อมกับประสานไปยัง สภ.กระทุ่มแบน มาอายัดตัว เนื่องจากมีกรณีกลุ่มทหารชั้นประทวนได้ร้องเรียนตำรวจ ปอศ. ให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะได้หลอกตุ๋นเพื่อนอีกกว่า 100 ล้านบาท (รวมถึงกรณีการหลบหนีค่ายทหารเมื่อกลางเดือนก่อน)
จากการสอบปากคำ ส.อ.เจษฎา สารภาพว่าได้ว่าจ้างนายสิริบูรณ์ 5,000 บาท ซึ่งเป็นเพื่อนกันให้ติดต่อเช่ารถจากผู้เสียหาย โดยนายสิริบูรณ์ได้ปลอมแปลงชื่อในใบขับขี่แสดงตนเป็นบุคคลอื่น แล้วนำรถมาให้ ส.อ.เจษฎา แล้วรับเงินค่าว่าจ้างดังกล่าว จากนั้น ส.อ.เจษฎา นำรถดังกล่าวไปจำนำที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งในราคา 1.8 ล้าน เงินที่ได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัว
พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังศาลอาญาธนบุรี เนื่องจากสอบปากคำได้เพียง 2 ปากและอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม เมื่อศาลอ่านคำพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว คิดเป็นหลักทรัพย์ 80,000 บาท ปราฏว่าเมื่อได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาได้เดินทางที่ห้องสืบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อติดต่อขอรับโทรศัพท์มือถือคืน แต่เป็นเวลาขณะเดียวกันได้รับการประสานงานมาจาก สภ.กระทุ่มแบน กำลังเดินทางมาอายัดตัวที่ สน.ท่าข้าม จึงถูกคุมตัวไว้เพื่อส่งตัวดำเนินคดี
หลังจากนั้นเวลา 20.25 น. ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน เข้าอายัดตัว ส.อ.เจษฎา ฐานเป็นผู้ต้องหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ระหว่างหลบหนีจากค่ายทหารเพราะถูกคุมขังฐานฉ้อโกงเงินสวัสดิการ ซึ่งมีคลิปปรากฏในโซเชียลมีเดีย ระหว่างคุมตัวออกจากห้องสืบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อขึ้นรถไปยัง สภ.กระทุ่มแบน ส.อ.เจษฎา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน และมีสีหน้าที่เรียบเฉย.-สำนักข่าวไทย