“อัจฉริยะ” ร้อง ปปป. สอบวินัย ผบช.ภ.1

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – “อัจฉริยะ” ร้อง ปปป. ให้เอาผิด 2 นายพลตำรวจคุมคดีแตงโม พร้อมเตรียมแถลงเปิดคลิปวิดีโอพร้อมหลักฐานขบวนการสร้างข้อมูลเท็จ ช่วยผู้ต้องหา จ่อร้อง ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีรพงษ์ หรือ แตงโม

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มาร้องทุกข์วันนี้เพื่อให้ดำเนินคดีกับพลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค และพลตำรวจตรีวสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ในความผิดฐานมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 184 และ มาตรา 200 ช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษอาญา หรือรับโทษน้อยลง


กรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีแตงโมเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งนายอัจฉริยะ ระบุว่า สิ่งที่เป็นเท็จ ได้แก่ ความเร็วจีพีเอส ภาพของผู้ต้องหาบนเรือ และภาพบาดแผลตัวเอสของหญิงสาวต่างชาติที่นำมาประกอบคลิปวิดีโอแถลงข่าว ที่อ้างว่าโดนใบพัดเรือเช่นเดียวกับบาดแผลของแตงโม รวมถึงการทดสอบบาดแผลกับดินน้ำมัน และการใช้หมูทดสอบทิศทางการตกเรือ นอกจากนั้นยังมีข้อมูลว่า มีการขโมยศพในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ไปกระทำการบางอย่าง และแก้ผลชันสูตรบาดแผลตามร่างกายจาก 11 แผล เป็น 22 แผล และสรุปที่ 26 แผล

นายอัจฉริยะ ยังบอกว่า ทั้งหมดล้วนเป็นการสร้างหลักฐานเท็จที่ทำเป็นขบวนการมี “พลตำรวจตรี” เป็นหัวหน้าขบวนการ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 อาจถูกหลอกต้ม ไม่ทราบถึงขบวนการดังกล่าว แต่ที่แจ้งความเอาผิดด้วย เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาที่ทำหน้าที่กำกับดูแลคดีนี้

และในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. จะเปิดแถลงข่าวใหญ่เปิดโปงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม ซึ่งมีตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 20 คน มีทั้งตำรวจฝ่ายสืบสวน สอบสวน เจ้าหน้าที่นิติเวช และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมขบวนการ โดยจะเสนอหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอมีทั้งภาพ และเสียง และบทสนทนาทางไลน์ รวมถึงคำรับสารภาพของพันตำรวจเอกนายหนึ่ง ซึ่งสารภาพแล้วว่า ประเด็นการปัสสาวะท้ายเรือของแตงโมไม่เป็นความจริง


ส่วนก่อนที่จะมาร้องทุกข์กับ บก.ปปป. วันนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกว่าได้รับการติดต่อพยายามเสนอเงินหลักแสนบาท เป็นรายเดือน เพื่อไม่ให้มาร้องทุกข์ และเปิดเผยขบวนการ พร้อมยืนยันว่า ขบวนการสร้างหลักฐานเท็จนี้ เริ่มขึ้นหลังเกิดเหตุประมาณ 3 วัน และเป็นการตั้งใจเพื่อแลกรับผลประโยชน์จากผู้ที่มีส่วนได้เสียทางคดี ไม่ใช่เป็นการทำงานผิดพลาดแล้วต้องการปกปิดคดี ซึ่งกุนซือสำคัญของคดีนี้เป็นคนเดียวกับที่ช่วยเหลือคดี บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจและหลบหนีไปต่างประเทศ

สำหรับคดีที่ส่งไปให้อัยการพิจารณาแล้ว เชื่อว่าอัยการจะตีกลับสำนวนให้ตำรวจนำไปสอบสวนเพิ่ม เช่น ประเด็นบาดแผลของแตงโม ที่มีจำนวนไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง และไม่ตรวจหาสารเสพติดในเส้นผมของผู้ต้องหาบางคน

และในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางไปยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจทั้งสองนาย ที่ร้องทุกข์วันนี้ พร้อมทั้งให้มีคำสั่งไปประจำที่ ศปก.ตร. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่