17 ก.พ. – ดีเอสไอ ใช้เครื่องเลเซอร์สแกน โดรนสแกน เรือตรวจการณ์ โซนาร์ ประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุในคดีแตงโม
ตั้งแต่ช่วงเช้า ดีเอสไอจัดพนักงานสืบสวนชุดใหญ่ 25 นาย ที่เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวน ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ด้านแผนที่ภูมิศาสตร์และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นที่และเรือตรวจสถานที่เกิดเหตุคดีของแตงโม ตามที่มีผู้ร้องขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี และข้อสงสัยในการสอบปากคำพยาน
ช่วงเช้า มีการลงเรือปฏิบัติการ 5 ลำ สำรวจเส้นทางเดินเรือทั้งหมด ไล่ไทม์ไลน์ในคดี แยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มสำรวจพื้นที่ใต้น้ำด้วยโซนาร์ ตั้งแต่พื้นที่เกิดเหตุทางด้าน บ้านตานิด ปทุมธานี ไปจนถึงสะพานพระราม 8 กลุ่มที่ 2 ใช้เลเซอร์สแกนเก็บพื้นที่ ภูมิประเทศทั้งหมด และกลุ่มที่ 3 ใช้โดรนสแกนพื้นที่ทุกจุดให้ครอบคลุม

โดยพื้นที่สแกนหลักๆ มี 3 จุดคือบริเวณท่าเรือวัดค้างคาว บริเวณกลางลำน้ำใกล้กับซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ท่าเรือวัดค้างคาว และท่าทรายบริเวณหน้าบริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยหลักๆ ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่งและโดรนเก็บรวบรวมข้อมูล ในส่วนของวัดค้างคาว หรือ ท่าทรายได้เก็บตัวอย่างน้ำไปพิสูจน์ว่าตรงกับที่อยู่ในปอดของแตงโมหรือไม่ตามรายงานการตรวจสอบ
ตัวโซนาร์จะบอกได้ว่าในน้ำสภาพเป็นอย่างไร เป็นดิน โคลน หรือทราย ทั้งหมดจะนำมาวิเคราะห์ให้กับกลุ่มแพทย์นิติเวชที่ได้เชิญมาไม่ต่ำกว่า 10 สถาบัน ว่าข้อมูลที่เก็บได้ในวันนี้กับรายงานตรวจสอบมีความสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ เครื่องมือที่นำมาใช้ในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ในคดีอาชญากรรม เพราะที่ผ่านมา เคยใช้แต่ในคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจกรณีการทำเหมืองแร่เถื่อน หรือบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเครื่องมือพิเศษนี้มีความแม่นยำสูง.-สำนักข่าวไทย