สธ. 4 เม.ย.- กรมวิทย์ฯ เผยพบโควิดลูกผสม XJ เป็นการรวมระหว่าง BA.1 +BA.2 ส่งรายงาน GISAID แล้ว เป็นชายไทย 34 ปี อาชีพส่งของ รับวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็มปัจจุบันหายแล้ว การพบลูกผสมตระกูล X เกิดขึ้นตามธรรมชาติของไวรัส ทั่วโลกพบ 17 ตัว ส่วนของรามาธิบดีพบลูกผสม XE
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า หลังจากที่ รพ.รามาธิบดี เผยว่า ผลจากการติดตามถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 พบสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อย โอไมครอน BA.1 และ BA.2 จนเกิดสายพันธุ์ ลูกผสม XE ที่พบในประเทศอังกฤษ และล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีการนำตัวอย่างเชื้อของผู้ป่วยติดเชื้อโอไมครอนมาถอดรหัสพันธุกรรมก็พบสายพันธุ์ลูกผสม XJ ที่พบมากในฟินแลนด์ โดยสายพันธุ์ลูกผสมที่พบของกรมวิทย์ฯ นี้ พบในชายไทย 34 ปี อาชีพพนักงานขนส่งสิ่งของ ซึ่งด้วยอาชีพเจอคนหลากหลาย มีประวัติรับวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ทั้งนี้ชายคนดังกล่าวปัจจุบันรักษาหายป่วยแล้ว ส่วนการเกิดสายพันธุ์ลูกผสมตระกูล X คือ การพบคนติดเชื้อมากกว่า 2 สายพันธุ์ในคนเดียว และเกิดการผสมกันระหว่างสายพันธุ์ จนเกิดเป็นไฮบริด หรือ ลูกผสม โดยทั่วโลกพบสายพันธุ์ลูกผสม หรือ ไฮบริด รวม 17 ตัว ทั้งนี้กรมวิทย์ฯ ได้นำเชื้อดังกล่าวที่พบ รายงานต่อ GISAID แล้ว
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การพบสายพันธุ์ลูกผสม ทางองค์การอนามัยโลก ได้มีการสั่งจับตาลูกผสม XE เนื่องจากแพร่เร็วกว่า BA.2 ถึง 10% ในอังกฤษ ส่วนเรื่องการหลบภูมิต่อวัคซีนหรือไม่ยังไม่มีใครตอบได้ ส่วนรายละเอียดของคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์ลูกผสม XE ให้สอบถามรายละเอียดที่ รพ.รามาธิบดี ทั้งนี้ ยังกล่าวย้ำโอไมครอน ติดง่ายมาก เพียงแต่ความรุนแรงลดลง ดังนั้น จึงขอให้ระมัดระวัง อย่าไปเชื่อว่าการปล่อยให้ติดเชื้อให้หมด แบบนี้ไม่ได้ เพราะถ้าปล่อยให้ติดเชื้อเยอะๆ โอกาสกลายพันธุ์มีสูง และไม่สามารถจะรู้ว่าหากเชื้อกลายพันธุ์แล้วจะรุนแรงมีปัญหาหรือไม่ แต่โดยธรรมชาติวันนี้ ความรุนแรงของเชื้อลดลง ดังนั้น ขออย่าไปรับประทานอาหารร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย