กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – ผลชันสูตรศพ “แตงโม” รอบ 2 ออกแล้ว สอดคล้องกับรอบแรก เตรียมแถลงคลายข้อสงสัยแม่แตงโม ขณะที่ทนายคดีแตงโมจ่อแจ้งความคนบนเรือทำลายหลักฐาน
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความคดีการเสียชีวิตของแตงโม เดินทางเข้าพบว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อสอบถามถึงประเด็นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาตรวจสอบคดีแตงโม รวมถึงเรื่องผลชันสูตรศพรอบ 2 ที่ทราบว่าออกแล้ว
ทนายเดชาระบุได้รับแจ้งเรื่องผลชันสูตรศพแตงโมรอบ 2 โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ออกมาแล้ว คาดว่าคณะทำงานคดีการเสียชีวิตของแตงโม จะนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนสัปดาห์นี้และจะส่งผลให้สำนวนคดีครบถ้วนสมบูรณ์ขึ้น เบื้องต้นผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์สอดคล้องกับผลการชันสูตรโดยสถาบันนิติเวชวิทยาของโรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนการจะร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับใครหรือไม่นั้น ทนายเดชา เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ตนอาจร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมกับผู้ที่ทำลายหลักฐาน ในความผิดฐานช่วยผู้อื่นให้มิต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง หรือทำลายหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ต้องรอดูผลการตรวจสอบพยานหลักฐาน เพื่อจะยืนยันตัวบุคคลในการร้องทุกข์เอาผิดกับบุคคลนั้นก่อน
ด้านเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าการผ่าพิสูจน์ศพแตงโมครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่พบตรงไหนผิดปกติ ส่วนจะแถลงข่าวผลการผ่าพิสูจน์คาดเป็นช่วงวันที่ 31 มีนาคม หรือ 1 เมษายนนี้ เพราะมีสรุปรายงานเบื้องต้นมาบ้างแล้ว
เบื้องต้นทราบว่าผลชันสูตรครั้งที่ 2 ตรงกับการชันสูตรครั้งแรกหลายข้อ จาก 11 ข้อ ที่แม่แตงโมสงสัย แต่รายละเอียดต้องรอรายงานอย่างเป็นทางการก่อน และเนื้อหาการแถลงข่าวจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่กระทบกับรูปคดีด้วย
ส่วนกรณีที่มีทนายความและนักเคลื่อนไหวไปร้องขอให้ดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษนั้น อยากให้มองเป็นคดีอาญาทั่วไป ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการ แต่เมื่อมีคนมาร้องทุกข์ ดีเอสไอต้องรับเรื่องและตั้งเลขสืบสวน แต่ยังไม่ได้หมายความว่ารับเป็นคดีพิเศษ หากสืบสวนแล้วเข้าเงื่อนไขคดีพิเศษ ก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งคดีนี้สุดท้ายแล้วดีเอสไออาจไม่รับเป็นคดีพิเศษก็ได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ดีเอสไอจะสอบสวนอีกทางหนึ่ง หากมีข้อมูลพยานหลักฐานใหม่ว่าเป็นการฆาตกรรม ก็สามารถรื้อคดีในอนาคตได้.-สำนักข่าวไทย