นนทบุรี 3 มี.ค.-ผบช.ภ.1 แถลงความคืบหน้าคดี “แตงโม” ขณะนี้คาดการณ์ช่วงเวลาพลัดตกเรือได้แล้ว อยู่ระหว่าง 22.29-22.34 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ “โรเบิร์ต” ขับเรือ ยืนยันไม่หนักใจกับการทำคดี แม้ผู้ต้องหาเป็นลูกเขยนายตำรวจระดับนายพล
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 แถลงความคืบหน้าการสอบสวนคดีแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไป 29 ปาก มีนัดสอบสวนวันนี้อีก 8 ปาก พร้อมยึดเรือไว้เป็นของกลางในคดี โดยจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ไม่พบการดัดแปลง แก้ไข ทำลายหลักฐานแต่อย่างใด โดยมีการถอดใบพัดไปตรวจพิสูจน์เป็นที่เรียบร้อย ก่อนนำมาติดตั้งอีกครั้งในการจำลองสถานการณ์เมื่อคืนนี้ แต่ใบพัดหลุดตกน้ำไป ตอนนี้สามารถงมขึ้นมาได้แล้ว
การจำลองสถานการณ์นั้นเป็นการให้ประจักษ์พยานของทั้ง 5 คน นำชี้ที่เกิดเหตุเพื่อประกอบคำให้การของแต่ละคน สำหรับเรือลำนี้มี GPS หรือระบบนำทางดาวเทียม สามารถย้อนดูเส้นทางและความเร็วในวันเกิดเหตุได้ การทดสอบเมื่อวานเพื่อดูว่าระบบใช้ได้ปกติหรือไม่ และมีการใช้เส้นทางและความเร็วเท่าวันเกิดเหตุ ซึ่งนอกจากทดสอบเส้นทางตามดาวเทียมแล้ว ยังตรวจสอบเส้นทางสัญญาณโทรศัพท์ ของประจักษ์พยานแต่ละคนอีกด้วย ซึ่งเส้นทางและเวลา มีความใกล้เคียงกับปากคำของพยาน ตอนนี้คาดการณ์ได้ว่าช่วงเวลาที่ “แตงโม” ตกลงจากเรือนั้นอยู่ระหว่าง เวลา 22.29 – 22.34 น. ของคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่การจำลองสถานการณ์นั้นไม่ได้จำลองถึงลักษณะการแต่งตัวของ “แตงโม” ขณะที่การสอบสวน “จ๊อบ” นายนิทัศน์ กัรติสุทธิสาธร นานถึง 8 ชั่วโมง เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เป็นเทคนิคในการสอบสวนที่ต้องสลับกับการพูดคุยกับพยาน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ยังระบุชัดเจนว่า ช่วงที่ “แตงโม” ตกเรือนั้นอยู่ระหว่างที่ “โรเบิร์ต” นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ เป็นผู้ขับเรือ ส่วนประเด็นที่ “แซน” วิศาพัช มโนมัยรัตน์ อ้างว่า “แตงโม” เดินไปปัสสาวะท้ายเรือ โดยจับขาตัวเองไว้ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่นั้น เป็นประเด็นที่กำลังสอบสวน
ขณะที่การเรียกโบว์ สุรัตนาวี สุวิพร มาสอบปากคำวันนี้ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ “กระติก” โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัว ขณะที่เรื่องเสียงชายปริศนาที่แทรกเข้ามาระหว่างคลิปภาพวิดีโอ “แตงโม” นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน
และยืนยันไม่หนักใจกับการทำคดี แม้ว่าผู้ต้องหาเป็นลูกเขยนายตำรวจระดับนายพล
ส่วนกรณีที่มีผู้ปล่อยข่าวเรื่องมีเงินบริจาค 3 ล้านบาท ให้แก่ ผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี นั้นขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง เป็นการให้ร้ายเจ้าพนักงานและองค์กร ตอนนี้สั่งการให้มีการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดแล้ว.-สำนักข่าวไทย
