สธ. เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น แต่ป่วยหนัก-เสียชีวิตลดลง

สธ. 10 ก.พ.- กระทรวงสาธารณสุข เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากต้นปี แต่อัตราผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลง ใช้ระบบการดูแลรักษาที่บ้านเป็นหลัก ระบบสาธารณสุขจึงยังรองรับได้ สถานพยาบาลมีเตียงว่างรองรับกว่า 70% พร้อมขอความร่วมมือเข้มมาตรการ VUCA ช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ

วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 อย่างเต็มที่ แม้ขณะนี้จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า เมื่อเทียบกับต้นปี 2565 แต่ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มตาม และเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น พบว่าอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตลดลงมาก จึงให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้มีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง มีระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation) ทำให้สถานพยาบาลมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยอาการหนักเต็มที่ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียชีวิตทุกวันนี้มากกว่า 80% เป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และไม่ได้รับวัคซีน จึงต้องขอให้มารับวัคซีนกันให้ครบถ้วน และหากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเกิน 3 เดือน ขอให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น


ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการควบคุมโรค ยังคงให้ยึดตามมาตรการ VUCA โดยขณะนี้เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้มากกว่า 20% ของประชากรแล้ว ขณะที่ประชาชนพบว่าให้ความร่วมมือใส่หน้ากากทุกคน ขอให้ใช้การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด ส่วนเรื่อง COVID Free Setting ขอความร่วมมือสถานประกอบการทุกแห่งดำเนินการจะช่วยให้สถานที่มีความปลอดภัย และตรวจ ATK เป็นระยะ ถ้าดำเนินมาตรการเหล่านี้ผู้ติดเชื้อจะลดลง โดยขณะนี้ระบบสาธารณสุขยังมีเตียงรองรับอีกกว่า 70% เนื่องจากใช้การดูแลด้วยระบบ Home Isolation ก่อน ส่วนสถานพยาบาลจะเน้นดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ซึ่งเดิมมีผู้ป่วยหนักวันละกว่า 6,000 ราย เข้าไอซียูกว่า 1,200 ราย แต่ขณะนี้ผู้ป่วยอาการหนักเหลือประมาณ 500 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 110 ราย ลดลงกว่าเดิมประมาณ 10 เท่า หากมีผู้ติดเชื้อที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจึงพร้อมรองรับได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก