สงขลา 29 พ.ย.-ศาลไม่ให้ประกัน ผู้ต้องหาฆ่าเปลือยเด็กชายวัย 7 ขวบ เสียชีวิตในห้องน้ำร้างแฟลตกลางเมืองหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าเรือนจำทันที
ความคืบหน้าเหตุน้องฟิตรี อายุ 7 ปี ถูกฆาตกรรม นอนคว่ำหน้าเปลือยกายเสียชีวิต ภายในห้องน้ำ ของห้องเช่าร้าง ชั้น 3 แฟลตหรรษา ซอยสุทธิหรรษา ถ.ราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ยื่นเรื่องฝากขัง นายกันตพงศ์ อายุ 24 ปี ต่อศาลจังหวัดสงขลา ผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ ใน 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยปิดบัง ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุเเห่งการตาย, พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันควร,หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และคัดค้านการประกันตัว เบื้องต้น ศาลอนุญาตให้ฝากขัง โดยญาติได้มีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในชั้นศาล แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หากปล่อยชั่วคราวเกรงจะหลบหนี จากนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ส่งเข้าเรือนจำจังหวัดสงขลาทันที โดยระหว่างที่นำตัวออกจากห้องขัง สภ.หาดใหญ่ นายกันตพงศ์ ยังมีสีหน้าเรียบเฉยไม่พูดไม่ต้องคำถามใดๆ และตอบเพียงสั้นๆว่าไม่ได้ทำและไม่รู้จักกับน้องฟิสตร
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลัฐาน ตำรวจมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายกันตพงศ์ โดยหลักฐานสำคัญที่มัดตัวคือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผลตรวจดีเอ็นเอชิ้นเนื้อในซอกเล็บ ของนายกันตพงศ์ ที่ตำรวจ ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปรากฏกว่าตรงกับน้องฟิตรี และลูกกุญแจ ที่พบในห้องของผู้ต้องหาที่สามารถไขกับแม่กุญแจ ที่ล็อกห้องที่พบศพน้องฟิตรีได้ ส่วนผลการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากการถูกบีบคอ และไม่ได้ถูกกระทำชำเรา หรือมีตะปูอยู่ทวารตามที่บางกระแสข่าว และแม้ว่าจะให้การปฏิเสธก็ไม่มีผลต่อรูปคดี และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุม 3 คดี เป็นคดียาเสพติด 2 คดี และคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 คดี ส่วนมูลเหตุจูงใจเป็นไปได้ว่าอาจจะมาติดยาเสพติดจนเกิดอาการข้างเคียง สำหรับประเด็นที่เป็นผู้ป่วยทางจิตเวชนั้น ก็อาจจะหยิบยกมาต่อสู้กันทางคดีได้ แต่สิ่งสำคัญ อยู่ที่สภาพตอนนั้นจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าอยู่ภาวะใด และญาติก็ยังไม่ส่งผล ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชมาให้ดู และเมื่อสอบปากคำ ผู้ต้องหา ก็รับรู้การสอบปากคำ พูดจากตอบโต้ได้ รวมทั้งการแจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ผู้ต้องหายังมีอาการปกติ ครบถ้วนไม่มีท่าทีบ่งชี้ว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช
ส่วนการจะเอาผิดกับญาติที่ปล่อยปละละเลย ผู้ต้องหา และเจ้าของแฟลต ที่ไม่คัดกรองผู้เช่าจนทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระบุว่า ประเด็นนี้ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าญาติปล่อยปละละเลยหรือไม่เพราะการที่อยู่ในห้องคนเดียวก็เป็นวิถีชีวิตของผู้ต้องหา รวมถึงเจ้าของแฟลตก็ไม่รู้เรื่อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายบุญมี โพธิรุด และนางอัสมัส ทองรักษ์ พ่อและแม่ของน้องฟิตรี ได้เดินทางมายัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อขอรับเอกสารรับรองการเสียชีวิตของน้องฟิสตรี ซึ่งทั้งคู่ บอกว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ นอนไม่หลับ และเป็นไปได้ว่าอาจจะย้ายออกจากห้องเช่าของแฟลตหรรษา เพราะภาพเก่าๆ ที่อยู่ด้วยกันยังฝังใจ และขอให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างถึงที่สุด เพราะกลัวว่า หากออกมาแล้วจะไปก่อเหตุกับลูกคนอื่นอีก และขอให้ทางแฟลตคัดกรองคนที่จะมาเข้าพักเพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ ด้วย.-สำนักข่าวไทย