6 มี.ค. – ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “มินนี่” และพวกรวม 10 คน เอี่ยวเว็บพนัน ฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านประกันตัว หลังพบกระทำผิดซ้ำ ด้านเจ้าตัวยันไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ให้ช่วย
น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ เจ้าของเว็บไซต์และผู้จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ พร้อมผู้บริหารเว็บไซต์ และเจ้าของบัญชีรับผลประโยชน์ รวม 10 คน ถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา หลังลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่าย “Betflik” 7 เว็บไซต์
สำหรับการคุมตัวฝากขังนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประกบตัวผู้ต้องหา นำขึ้นรถตู้ 1 คัน โดยระหว่างออกจากห้องควบคุม ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามตัวน.ส.ธันยนันท์ ว่ามีอะไรจะชี้แจงหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบว่า ขอให้สัมภาษณ์ในภายหลัง และไม่ได้กังวลใจอะไร เมื่อถามว่าได้มีการติดต่อหาผู้ใหญ่ที่รู้จักหรือไม่ น.ส.ธันยนันท์ กล่าวว่า ไม่ได้ติดต่อ
คดีนี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไว้ 33 คน แบ่งเป็น ผู้บริหารเว็บไซต์ 7 คน ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันเมื่อปี 2566 และมีผู้ร่วมขบวนการ 26 คน โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ตำรวจได้เข้าตรวจค้น 13 เป้าหมายจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน และเมื่อวานนี้จับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 30 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง, บัตรเครดิตและบัตรเดบิต จำนวน 32 ใบ, สมุดบัญชีธนาคาร 25 เล่ม และเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เปิดเผยว่า เบื้องต้นในท้ายคำร้อง ทางพนักงานสอบสวนทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นการทำผิดซ้ำ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธ และให้การไม่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะน.ส.ธันยนันท์ ขอให้การเป็นเอกสาร ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ
สำหรับผลการตรวจสอบโทรศัพท์ที่ยึดมาได้ 30 เครื่อง โดยยึดมาจากบ้านของ น.ส.ธันยนันท์ 5 เครื่อง ขอเวลาในการตรวจสอบ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบวัตถุพยานอิเล็กทรอนิกส์ต้องดูทุกอย่างรวมถึงข้อมูลการแชทสนทนาที่เกี่ยวข้องในคดีเพื่อหาความเชื่อมโยงและขยายผล โดยยืนยันว่าหากพบเจอผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งหมด
เมื่อถามว่าในครั้งนี้ น.ส.ธันยนันท์ ได้ติดต่อหาผู้ใหญ่เหมือนครั้งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบและยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ สำหรับผู้ต้องหาอีก 23 ราย จาก 33 หมายจับ ที่มีตั้งแต่ระดับผู้บริหาร บัญชีม้า และผู้รับผลประโยชน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยคาดว่าน่าจะยังอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้อยากฝากถึงผู้ต้องหาที่เหลือว่า หากรู้ว่าตัวเองทำผิดก็ให้รีบเข้ามาพบตำรวจ.-สำนักข่าวไทย
